นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (สายงานสนับสนุน) บลจ.บียอนด์ (BYD) กล่าวว่าไตรมาส 3/66 เป็นไตรมาสที่ท้าทายกับธุรกิจหลักทรัพย์ จากความผันผวนของตลาด ซึ่งบริษัทได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับในสภาวะที่ตลาดมีความเปราะบาง โดยเน้นการสร้างรายได้จากหลายธุรกิจทั้งธุรกิจบริหารหลักทรัพย์และธุรกิจการให้บริการรถโดยสารและเรือโดยสารสาธารณะ
และบริษัทยังคงเป้าจะมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (Asset Under Advice: AUA) ธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง Wealth Management อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมี AUA อยู่ที่ 4,470 ล้านบาทหรือคิดเป็น 75% ของเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นกองทุนรวม 35.75% หุ้นกู้ 32.55% และ กองทุนส่วนบุคคล 31.70%
ล่าสุดได้มีการทำสัญญากับ Gettgo ในการเป็นตัวแทนการให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ประกัน ซึ่งปลายปีนี้จะเป็นช่วงทดลองตลาด หลังจากนั้นจะขยายธุรกิจประกันให้ครอบคลุมกว้างขวางขึ้น นอกจากนี้การให้บริการด้านกองทุนส่วนบุคคล บริษัทเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในธุรกิจกองทุนส่วนบุคคล อาทิ SiamQuant , Probit , Deepscope และล่าสุดอยู่ระหว่างการเซ็นสัญญากับบริษัท Kuvara Capital ซึ่งคาดว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเร็ว ๆนี้
"ภาพรวมที่เกิดขึ้นและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เป็นประเด็นที่กระทบกับทุกคน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้ จึงอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิดจากแผนที่บริษัทคาดเอาไว้บ้างเล็กน้อย บริษัทต้องระมัดระวังการนำเสนอตราสารหนี้ให้กับลูกค้า โดยต้องตรวจข้อมูลอย่างละเอียด มีข้อมูลที่เปิดเผยอย่างเพียงพอครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าได้ตัดสินใจในข้อมูลที่บริษัทได้พยายามช่วยอย่างเต็มที่" นางสาวออมสินกล่าว
ส่วนกลุ่มธุรกิจ บมจ.ไทย สมายล์ บัส (TSB) ตลอดไตรมาสที่ผ่านมามีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องและมีการลงทุนมากกว่าที่คาดไว้ โดยมาจากความต้องการใช้บริการของประชาชนค่อนข้างมาก โดยบริษัทได้นำรถบัสร้อนไปให้บริการทั้งหมด 10 เส้นทาง ตามแผนคาดว่าจะต้องบรรจุรถประมาณ 220-250 คัน งบลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท เฉพาะค่ารถและอู่รถ แต่อาจจะต้องลงทุนก้อนใหญ่อีก ซึ่งจะเป็นการลงทุนที่ได้รับผลตอบแทนมั่นคงในระยะยาว
ทั้งนี้แผนการลงทุนของ TSB คาดว่าจะใช้เวลา 7 ปีตั้งแต่ปี 64-70 ในการลงทุนบรรจุรถเข้าไปให้บริการทั้งหมด 1,825 คัน แต่ในการลงทุนจริงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาลงทุนไปแล้ว 2,200 คัน และมีแผนลงทุนเพิ่มในปีหน้าอีกกว่า 900 คัน เพื่อรองรับกับความต้องการของประชาชน นอกจากนี้ TSB ยังมีโครงการใหญ่ในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อลงทุนเพิ่ม โดยขณะนี้ได้เตรียมรถเพิ่มเพื่อนำไปใช้ในโครงการต่าง ๆ
ในไตรมาส 3/66 บริษัทมีรายได้รวม 203.77 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 171.15% YoY โดยมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ การบริหารกองทุนส่วนบุคคล และตัวแทนขายหน่วยลงทุน รวมทั้งรายได้จากดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมแก่ TSB ที่เพิ่มขึ้น