นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) กล่าวว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 66 คาดว่จะทรงตัวจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2.1 พันล้านบาท แต่อาจจะยังเห็นผลขาดทุนอยู่บ้าง เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แม้ว่าธุรกิจโรงแรมจะดีขึ้น ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโรงแรมราว 30-40% ของรายได้รวม
และในช่วงปลายปีนี้นอกจากโครงกาว ศศรา หัวหิน ที่มีการเริ่มทยอยโอนแล้ว ยังมีโครงการที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์โครงการ The Issara สาทร มูลค่าโครงการ 2.5 พันล้านบาท ทยอยเข้ามา ซึ่งขณะนี้ทำยอดขายไปแล้วกว่า 60% เชื่อว่าจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทจะดีขึ้นมาในช่วงไตรมาส 4/66
ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด "ซาซ่าส์ หัวหิน (SASA Hua Hin)" มูลค่า 1.7 พันล้านบาท บริเวณเขาตะเกียบ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จุดเด่นวิวทะเล และใกล้สนามกอล์ฟ เป็นอีกหนึ่งโครงการใหม่หลังจากประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการศศรา หัวหิน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับดีมานด์ของกลุ่มเป้าหมาย โดยโครงการ ซาซ่าส์ หัวหิน ถือเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนทำเลทองหายากและน่าจับตา
นายสงกรานต์ กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดชะอำ-หัวหิน ยังเป็นพื้นที่ที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ส่งผลให้ดีมานด์ที่อยู่อาศัยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งซื้อเพื่ออยู่เอง ซื้อเพื่อการลงทุน ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักหลังที่สอง เพราะโซนหัวหินนอกจากจะมีทะเลและหาดทรายสวยแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟชั้นนำของประเทศไทย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้เวลาช่วงวันหยุดไปกับการเล่นกอล์ฟท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ นอกเหนือจากปัจจัยของหัวหินที่เป็นเมืองท่องเที่ยว
ปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานและสภาพแวดล้อม ยังมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นไปอีก จากโครงการต่างๆ ของภาครัฐที่กำลังพัฒนาขึ้น เช่น โครงการผลักดันให้หัวหินเป็นชายทะเลเพื่อการพักผ่อนระดับโลก โครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน โครงการมอเตอร์เวย์นครปฐม-ชะอำ โครงการปรับปรุงและขยายสนามบินหัวหิน เหล่านี้จึงเป็นข้อสรุปได้ว่าหัวหินยังเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงของอสังหาริมทรัพย์ไทย
"ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ใจกลางหัวหินที่ผ่านมาถือว่ามีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังคงมีดีมานด์จากกลุ่มผู้ซื้อที่ต้องการบ้านหลังที่สองเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่การระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และดีมานด์จากชาวต่างชาติกลุ่มใหม่ๆเพิ่มขึ้น ในขณะที่โครงการเปิดตัวใหม่มีจำนวนน้อย เนื่องจากที่ดินชายทะเลที่เหมาะสมในการพัฒนามีจำกัด" นายสงกรานต์ กล่าว
สำหรับโครงการ SASA Hua Hin (ซาซ่าส์ หัวหิน), A New Stylish Beach Condominium in Hua Hin คอนโดมิเนียมแห่งใหม่ที่ให้ได้สัมผัสทั้งวิวทะเลและวิวสนามกอล์ฟ "The Unbeatable Panorama" บนทำเลใจกลางหัวหิน พร้อมเปิดขายครั้งแรก The First VIP Booking 1-10 ธ.ค.นี้ ณ Sales Gallery โครงการ ซาซ่าส์ หัวหิน ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3.9 ล้านบาท และราคาสูงสุด 28 ล้านบาท โดยมีลูกค้าต่างชาติ 1 รายสนใจเข้ามาจองแล้ว 1 ยูนิต โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ภายใน 1 ปีครึ่ง
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีโครงการศศรา หัวหิน มูลค่า 1.5 พันล้านบาท ที่เปิดขายไปเมื่อปี 64 ปัจจุบันมียอดขายไปแล้วกว่า 70% และจะเริ่มทยอยโอนได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งจากความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ชะอำ-หัวหินยังเติบโตได้ต่อเนื่อง และยังอยู่ระหว่างการมองหาซื้อที่ดินในบริเวณใกล้เคียงเข้ามลพัฒนาเพิ่มเติม
พร้อมกับวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 67 จำนวน 2 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสในภูเก็ต และบ้านเดี่ยวหรูในทำเลกรุงเทพกรีฑา พร้อมเตรียมพัฒนาวิลล่า 4 หลังสุดท้าย บนที่ดินผืนสุดท้ายของศรีพันวา ภายในปี 67