นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) กล่าวว่า บริษัทประกาศลงทุน 135 ล้านบาท ใน บริษัท บ้านลลิสา เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด (Baan Lalisa Services Group) ซึ่งเป็นธุรกิจดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยครบวงจร ผ่านบริษัท พริ้นซิเพิล เน็กซ์ จำกัด (PRINC NEXT) ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในธุรกิจเฮลท์แคร์
PRINC NEXT จะเข้าถือหุ้นในบริษัทร่วมทุน 45% และบริษัท บ้านลลิสา โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 55% เพื่อมุ่งสร้างระบบนิเวศน์ด้านเฮลท์แคร์ผลักดันโครงข่ายการให้บริการสุขภาพอย่างครอบคลุมในทุกระดับ และมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในการเติบโตธุรกิจในระยะยาว ซึ่งการลงทุนดังกล่าว บริษัทรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 4/66 เป็นต้นไป "การเข้าลงทุนในครั้งนี้ ประโยชน์จะตกอยู่กับผู้รับบริการ และบุคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ต้องรับการฟื้นฟู และผู้สูงอายุที่ต้องการมาตรฐานการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดโดยบุคลากรทางการแพทย์ มองการเติบโตของรายได้ PRINC เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 15% ต่อปีตามแผนระยะ 5 ปีนับจากนี้ และประโยชน์ที่ได้คือการขยายธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วและเชื่อมโยงเครือข่ายการให้บริการระหว่างสถานพยาบาลซึ่งจะทำให้เติมเต็มช่องว่างระหว่างกัน นอกจากนี้ยังมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป"
ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบันกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันประชากรวัยเด็กลดลง ค่านิยมเปลี่ยนไปส่งผลให้ผู้สูงอายุตัดสินใจรับบริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น จากการประเมินมูลค่าตลาดเนอร์สซิ่งโฮม มีแนวโน้มขยับขึ้น 10 เท่าอีก 10 ปีข้างหน้า หรือในปี 2576 ประกอบกับแนวทางขยายธุรกิจโรงพยาบาลเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ที่มุ่งขยายยังเมืองรอง ในปัจจุบันมีจำนวน 15 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 14 แห่งใน 11 จังหวัด และมีแผนขยายให้ครบ 20 แห่ง พร้อมการขยายศูนย์การแพทย์เฉพาะทางรักษาโรคยากซับซ้อน บริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญในการกระจายการลงทุนเฮลท์แคร์อื่น ๆ เพื่อรองรับและตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการที่ต้องการฟื้นฟูและดูแลในศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่
ขณะที่ นายอธิพร พูลสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านลลิสา เซอร์วิส กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า โครงการบ้านลลิสาเนอร์สซิ่งโฮมปัจจุบันมี 18 สาขาทั่วประเทศ เป็นโครงการที่ตอบสนองต่อผู้ป่วยและผู้สูงอายุในทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มที่ต้องการการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์อย่างใกล้ชิดในราคาที่เข้าถึงได้ ขณะเดียวกันธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮมในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง ทำให้บ้านลลิสาหันมาทำตลาดจับกลุ่มผู้สูงอายุที่ดูแลตัวเองได้ ต้องการมีสังคมที่ดี และไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน และให้บริการ Baan Lalisa Active Living ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันมีห้องพักให้บริการมากกว่า 3,000 ห้อง เน้นด้าน Community Wellness เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้พักอาศัยในโครงการ
"สำหรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุครบวงจร "บ้านลลิสา" (Baan Lalisa) มีบริการครบวงจร ตั้งแต่ ธุรกิจเนอร์สซิ่งโฮม (Baan Lalisa Nursing Home) ปัจจุบันมี 18 สาขาทั่วประเทศไทย ตั้งเป้าระยะ 5 ปี ขยายเพิ่มจากเดิมอีก 20 แห่ง ไม่นับรวมแฟรนไชส์ ซึ่งยังคงเปิดรับนักลงทุนและพันธมิตรที่สนใจในการเข้าลงทุนในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ, ธุรกิจโฮมแคร์ (Baan Lalisa Home care) และธุรกิจที่พักอาศัยคอนโดสำหรับผู้สูงวัย (Baan Lalisa Active Living)
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจพัฒนาบุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุ (Baan Lalisa Academy) เพื่อจัดหาบุคลากร พร้อมทุนการศึกษาฟรี 100% พร้อมโอกาสทำงานในโครงการบ้านลลิสาทั่วประเทศ ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายของบ้านลาลิสามีหลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้ฟื้นฟูจากอาการป่วยหรือการผ่าตัด กลุ่มผู้ป่วยในภาวะพึ่งพิง กลุ่มผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยสมองเสื่อม กลุ่มผู้สูงอายุที่ยังแอคทีฟ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และชาวต่างชาติที่มองหาที่พักอาศัยในระยะยาว ที่สำคัญด้วยกลยุทธ์การขยายแบบธุรกิจแฟรนไชส์ทำให้สามารถขยาย ธุรกิจ และขยายส่วนแบ่งการตลาดให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว" นายอธิพรกล่าว