(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์วอลุ่มบางไร้ปัจจัยใหม่ นักลงทุนยังขาดความมั่นใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 24, 2023 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล,CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งตัวไซด์เวย์ ไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวานนี้ (23 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving day) ทำให้ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากฝั่งสหรัฐ

ส่วนหุ้นยุโรปขยับขึ้นเล็กน้อย หลังจากตัวเลข PMI ในเดือนพ.ย.ออกมาดีกว่าตลาดคาด อย่างไรก็ดี ยุโรปยังอยู่ภาวะเศรษฐกิจหดตัว ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะแกว่งไซด์ทั้งแดนบวกและแดนลบ แต่คาดยืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมีความกังวลกรณีธุรกรรมชอร์ตเซลและโปรแกรมเทรดดิ้ง เห็นได้จากวานนี้วอลุ่มซื้อขายน้อย ทั้งที่มีแรงขายหุ้น AOT ถึงกว่า 1 หมื่นล้านบาท สูงกว่า 30% ของวอลุ่มทั้งหมดที่มีเพียง 4 หมื่นล้านบาท สะท้อนนักลงทุนไม่มั่นใจตลาด ส่วนหุ้น AOT วันนี้คงไม่ลงไปแรงแล้วแต่ก็ไม่น่าจะปรับขึ้นเร็วคาดว่ายังทรงตัว

ให้แนวรับที่ 1,400 จุด แนวต้านที่ 1,415 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,425 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 33,752.05 จุด เพิ่มขึ้น 300.22 จุด หรือ +0.90% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 17,771.75 จุด ลดลง 139.09 จุด หรือ -0.78% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,060.33 จุด ลดลง 1.53 จุด หรือ -0.05%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 พ.ย.66) ที่ 1,406.61 จุด ลดลง 7.54 จุด (-0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 40,407.66ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,720.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.66.
  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย.เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 พ.ย.66) อยู่ที่ 5.38 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.30 แนวโน้มอ่อนค่า ลุ้นทดสอบ 35.50 จับตาตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่น
  • "ปลัดคลัง" ชี้เศรษฐกิจไทย ต้องก้าวข้าม 5 ความท้าทายหลักทั้งจีดีพีไทย ขยายตัวลดต่อเนื่อง 20 ปี โตเฉลี่ย 3.2% ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สังคมสูงวัย ปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่อยู่ระดับสูง การลงทุนที่ลดลงยันเสถียรภาพ การเงิน-การคลัง ยังแกร่งหนุนลงทุนอุตสาหกรรมใหม่สร้างจีดีพีโตยั่งยืน
  • นายกฯ กล่าวปาฐกถาว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ดี มีการพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ขณะที่นักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยกว่าเป้าหมาย รวมถึงให้ความสำคัญการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และการจัดการหนี้ครัวเรือน และนโยบายดิจิตัลวอลเล็ตที่จะมากระตุ้นเศรษฐกิจ
  • สอท.เผยยอดส่งออกรถยนต์เดือน ต.ค.ทะลุ 1 แสนคัน คาดทั้งปีมีลุ้นทะลุ 1.1 ล้านคัน แต่ยอดขายในประเทศ 10 เดือนแรกวูบ 7.5%
  • "สรท." ฟันธง! ส่งออกไทยพ้นจุดต่ำสุดแล้ว ลุ้นปี 2567 พลิกโตบวกที่ 1-2% ด้าน "ส.อ.ท." ฟุ้งยอดส่งออกรถเดือน ต.ค.ทะลุ 1 แสนคัน อานิสงส์ประเทศคู่ค้าโต ลุ้นดันยอดผลิตทั้งปีทะลุเป้า 1.1 ล้านคัน กางยอดส่งออกอาหาร 9 เดือน โกยรายได้ 1.16 ล้านล้านบาท
  • ม.หอการค้าไทย ชี้ผลสำรวจพบเงินสะพัดลอยกระทงปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท แตะหมื่นล้านครั้งแรกรอบ 8 ปี ขณะที่คนไทยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับ "ดิจิทัลวอลเล็ต" เพราะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อ ช่วยคนยากจน แต่มีคนไม่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ เพราะไม่อยากให้รัฐกู้เงินมาใช้จ่าย ส่งต่อหนี้สู่ลูกหลาน
  • ผู้ว่าการ ธปท.ชี้เศรษฐกิจไทยต้องปรับตัวรับอนาคต "โตแบบยืดหยุ่นรับแรงกระแทกจากวิกฤติได้" ขณะที่ ธปท.ดูแลระบบการเงินตามความเสี่ยง ไม่เข้มจนเกินเหตุ เดินหน้ารุก 3 แนวรุกระบบการเงินไทย เพิ่มการใช้จ่ายผ่านช่องทางดิจิทัล ลดเงินสดเพิ่มผลิตภัณฑ์การเงินเพื่อธุรกิจยั่งยืน เพิ่มฐานข้อมูลกลางขอสินเชื่อ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ORI (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 13.20 บาท หุ้น SET100 ที่น่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนลดหย่อนภาษี TESG เดือนหน้า ซึ่งบริษัทได้รับ SET ESG Rating ปี 2566 ระดับ AA เราคาดว่าบริษัททำกำไรไตรมาส 4/66 เพิ่มเติมได้อีกจากไตรมาส 3/66 จะทำให้กำไรปี 66 สูงขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ จากโครงการใหม่ 12 แห่ง มูลค่า 1.51 หมื่นลบ. และคอนโดสร้างเสร็จใหม่อีก 4 แห่งจะเริ่มโอน รวมถึงโครงการแนวราบ 6 แห่งพร้อมโอน อีกทั้งยังแผนการเสนอขายหุ้น ONEO (One Origin)
  • WHA (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 5.40 บาท ยังเกาะกระแสภาคเอกชนรายใหญ่จากสหรัฐ อาทิ Google และ Microsoft จะเข้ามาสร้าง Data Center ในไทย โดยเฉพาะ Microsoft คาดว่าจะใช้ที่ดินประมาณ 400-500 ไร่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ WHA
  • BBIK (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 123.00 บาท Earning Momentum ดูเลิศคาดกำไรหลักโตแกร่งใน Q4/66 (+107% YoY,+4% QoQ) และปี 67 (+38% YoY) จากกลับมาชนะประมูลโครงการต่างๆใน ต.ค.66 เพิ่ม Backlog ใน Q4/66 และ Q1/67 ด้านประสิทธิภาพพนักงานสูงขึ้นและอัตราภาษีที่ลดลงหนุนผลงาน ด้วย P/E ปี 66 ที่ 37x และการเติบโตของกำไรหลักต่อหุ้นในปี 66-68 ที่ 39% CAGR มีอัตราส่วน PEG ที่ 0.9 เท่า ต่ำสุดของกลุ่มเทคฯในไทย อีก 4 รายมีอัตราส่วน PEG เฉลี่ย 2.3 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ