นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) เปิดเผยว่า กพท. อยู่ระหว่างทบทวนค่าบริการผู้โดยสารขาออก (PSC) โดยจะสำรวจค่า PSC หลายสนามบินว่าเก็บสูงกว่าหรือต่ำกว่าไทย เพื่อหาอัตราเหมาะสม และต้องเป็นอัตราที่สนามบินต้องแข่งขันได้ โดยที่ผ่านมามีบางรายการที่ยังไม่สะท้อนต้นทุน หรือบางรายการไม่ได้เป็นต้นทุนแล้ว ฉะนั้น จึงเห็นว่าควรทบทวนอัตราค่า PSC ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะปรับขึ้นหรือปรับลงได้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการวบรวมข้อมูล น่าจะนำเสนอต่อ คณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ในช่วงปลายปี 67
ส่วนที่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จะปรับขึ้นค่า PSC 30 บาทต่อคน นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า กล่าวว่า สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน และค่า PSC สำหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100 บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคน โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.67 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ AOT ได้มีการปรับขึ้นค่า PSC ครั้งล่าสุดเมื่อคราวเปิดให้บริการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในปี 49 และใช้อัตราเดิมเรื่อยมาโดยไม่ได้มีการปรับขึ้นมากว่า 17 ปีแล้ว ซึ่งรายได้จากการจัดเก็บค่า PSC กฎหมายได้กำหนดให้ผู้บริหารท่าอากาศยานนำไปใช้ในการพัฒนาท่าอากาศยาน จัดหาและปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ และการบำรุงรักษาด้านความปลอดภัยท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานของท่าอากาศยานในระดับสากล
รวมทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีในท่าอากาศยานทุกแห่ง ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อผู้โดยสารที่จะได้รับความปลอดภัย และความสะดวกสบายจากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จัดไว้รองรับ ทั้งนี้ กฎหมายได้กำหนดไว้ว่าค่า PSC ไม่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายอื่นนอกเหนือจากการอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้
นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ผู้โดยสารไม่ได้มีภาระเพิ่ม เพียงแต่ย้ายจากที่จ่ายให้สายการบินมาที่ AOT ที่มีต้นทุนในการปรับปรุง การบริการ โดยยังเรียกเก็บพร้อมตั๋วโดยสาร โดยการปรับขึ้นค่า PSC ไก้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) และเห็นชอบโดยรมว.คมนาคมในชุดก่อน และรมว.ปัจจุบันรับทราบแล้ว