ปธ.FETCO เก็งตลาดหุ้นฟื้นกลางปี 67 มอง SET ยังขาดสเน่ห์เตือนปรับตัวสู้ความท้าทายโลกยุคใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 29, 2023 13:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการ SEC Capital Market Symposium 2023 ว่า มองตลาดหุ้นไทยจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงกลางปี 67 เนื่องจาก Sentiment ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง รวมไปถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะเห็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ในช่วงปลายปี จะหนุนให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้น และสภาพคล่องที่ตึงตัวปรับตัวดีขึ้น

"ราคาหุ้นไทย ณ ปัจจุบัน ยังมีอัพไซด์พอสมควร และน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ในระยะยาว คาดว่ากลางปีหน้าเป็นต้นไป Sentiment ต่างๆ ก็จะเริ่มเปลี่ยน จากการทยอยลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก"นายกอบศักดิ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันยังคงมีแรงกดดันจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรลดลง, ดอกเบี้ยสหรัฐที่อยู่ในระดับสูง, เงินทุนไหลออก, ปัญหาในตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค ที่มีผลต่อการตัดสินใจลงทุน, การดูดสภาพคล่องกลับ หรือการทำ QT ของสหรัฐ

นายกอบศักดิ์ มองว่า ความท้าทายของตลาดหุ้นไทยในอนาคตที่กำลังจะเข้ามาเปลี่ยนยุคสมัย ประกอบไปด้วย 4 ด้าน คือ Technology, Geopolitics, Aisa and Asean Rising และ Climate Change ทำให้ทุกคนต้องเตรียมตัวและปรับตัวเพื่อการเข้าสู่โค้งสำคัญนี้ และต้องมองหาโอกาสให้เจอ เพื่อหยิบฉวยโอกาสมาเป็นของเรา

"ความท้าทายของตลาดหุ้นไทย คือ ยังขาดเสน่ห์ เนื่องด้วยปัจจุบันที่ยังมีหุ้นแบบเดิม เช่นอุตสาหกรรมรถยนต์, อาหาร, ปิโตรเคมี, เหล็ก เป็นต้น ซึ่งกำลังจะตกยุค โดยในอนาคตอุตสาหกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกคือ Technology ไม่ว่าจะเป็น AI, Robot , Metaverse , Nano Cybernetics จึงเป็นโจทย์ที่ว่าเราจะสามารถสร้างเสน่ห์ของเราอย่างไร นี่คือความท้าทาย และถ้าองค์ประกอบของ SET ยังไม่ก้าวสู่อนาคต ตลาดหุ้นไทยก็จะเล็กลงเรื่อยๆ" นายกอบศักดิ์ กล่าว

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า การปรับปรุงมาตรการ หรือกฎเกณฑ์ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญ ทั้งมาตรการ BOI, กฎหมายต่างๆ, กระทรวงการคลัง, กระทรวงต่างประเทศ, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

พร้อมแนะ 4 เรื่องสำคัญที่จะสร้างมาตรฐานให้ตลาดหุ้นไทย ได้แก่ 1. สินทรัพย์แห่งอนาคต อย่าง Bitcoin, Ethereum 2. การ Reinvent เช่น การปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ และ การพัฒนา Single Portal 3. การปิดจุดมืดของตลาดทุนไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก / Unrated Bonds (ไม่มีการจัดอันดับเครดิต) ทำอย่างไรที่จะทำงานร่วมกับบริษัทขนาดเล็กให้ขึ้นมาเป็นหุ้นขนาดกลางได้ รวมถึงควบคุมการปั่นหุ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนรายย่อย, บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) , บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และ 4. Capital Market for all โดยจะต้องมีเรื่องของ Sustainability / ESG , Social Contribution/ Credit, SME / Communities โดยเชื่อว่าการสร้าง Strong Foundation คือคำตอบสุดท้ายในโลกยุคใหม่

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการเสนอขายกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund) หรือ Thai ESG คาดว่าจะเปิดตัวและเสนอขายกองแรกได้ในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ คาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุน และเชื่อว่าจะมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนในเฟสแรกราว 10,000 ล้านบาท

ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงบ่ายวันนี้ คาดวา กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยปีนี้ไม่ได้เติบโตตามเป้าหมาย อีกทั้งแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยมองว่าไม่ได้ง่าย ยังมีอุปสรรคจากปัจจัยภายนอกประเทศอยู่ โดยเฉพาะเศรษฐกิจหลักของโลกอ่อนแอ ทำให้จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกและการผลิตของไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ