บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" พร้อมลดราคาเป้าหมายมาที่ 21.8 บาท เนื่องจากมองว่าในปี 67 มีความท้าทายจากความเสี่ยงนโยบายรัฐและการแข่งขันสูง
ปี 67 ยังมีปัจจัยกดดัน ปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจ Oil Station มาจาก 1. ค่าการตลาดที่ยังปัจจัยจำกัด Upside จากผลของมาตรการรัฐฯ ในการประกาศใช้น้ำมันดีเซล EURO 5 เริ่ม 1 ม.ค.67 และการปรับลดราคาน้ำมันเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน 2.การแข่งขันในธุรกิจ non-oil ที่เพิ่มมากขึ้น และ 3. สัดส่วนการขายน้ำมันเครื่องบินที่มีโอกาสลดลงจากการเข้ามาของผู้ประกอบการายใหม่ โดยปัจจุบัน 0R มีสัดส่วนการขายน้ำมันเครื่องบินอยู่ที่ 12%-13%
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ลง 7% จากเดิม 15.4 พันล้านบาท เหลือ 14.4 พันล้านบาท โดยการปรับ EBITDA Margin ในธุรกิจ Lifestyle ลงจากเดิมที่ 2 8.4% เหลือ 26.0% เพื่อสะท้อนการแช่งขันในธุรกิจ Non-il ที่เพิ่มมากขึ้น ในปี 67
ปรับคำแนะนำเป็น "ถือ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 2 1.8 บาท (เดิม 23 บาท) อ้างอิง P/E เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง ที่ระดับ -1.0 S.D. ที่ 18 เท่า เพื่อสะท้อนการปรับประมาณการกำไรสุทธิในปี 67 แม้เรายังเชื่อมั่นว่า 0R จะยังเป็นผู้นำและเป็น ผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาด (OR's Market Share 42.5%) แต่การแข่งขันในธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงจากนโยบายของภาครัฐ การคาดหมายกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่คาดว่าจะลดลง qoq และ Upside ของราคาหุ้นที่จำกัด ทำให้เราปรับคำแนะนำเป็น "ถือ"