นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคริปโทฯ มีแนวโน้มเติบโตได้สูงและน่าจับตามองในเดือนธ.ค. โดยเฉพาะ Bitcoin และกลุ่ม Liquid staking ด้วยเหตุผลสนับสนุน ดังนี้
1. เงินทุนไหลเข้าตลาดจำนวนมากที่สุดในรอบ 20 เดือน จากภาพรวมเงินทุนของ Stablecoin พบว่า เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน และเป็นเดือนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิมากที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบ 20 เดือน โดยมูลค่าตลาดรวมเพิ่มขึ้นกว่า 3.5% หลังจากติดลบ -26% ตั้งแต่ช่วงตลาดหมีที่ผ่านมา ซึ่งปัจจัยนี้แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่สูงขึ้นและมองเห็นโอกาสในการเติบโตของตลาดคริปโทฯ ทั้งด้านราคารวมถึงปัจจัยพื้นฐานอย่างมีนัยสำคัญ
2. อัตรา Bitcoin dominance ปรับตัวขึ้นหลังทดสอบแนวรับสำคัญ หนุนราคา BTC ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อัตรา Bitcoin dominance มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังจากทดสอบแนวรับบริเวณ 52% แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ Bitcoin สูงขึ้น รับเหตุการณ์สำคัญในปี 2024 เช่น Bitcoin halving และการอนุมัติ Bitcoin spot ETF ซึ่ง อัตรา Bitcoin dominance มีแนวต้านถัดไปที่บริเวณ 55% เป็นโอกาสให้เดือนธันวาคมนี้ BTC ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นสูงและน่าจับตามอง
3. Total value lock ของกลุ่ม Liquid staking เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18% กลุ่ม Liquid staking เป็น Sector ที่มี Total value lock (TVL) เพิ่มขึ้นมากที่สุดในเดือนที่ผ่านมา เหตุผลมาจากราคา ETH มีการปรับตัวขึ้น 15% และกลุ่ม Liquid staking ได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น หลังจากมีการเปิดตัวของฟอร์ม Layer2 อย่าง Blast อีกทั้งยังมีปัจจัยสำคัญอย่าง การจดทะเบียน Ethereum spot ETF ที่นำโดย Blackrock ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้กลุ่ม Liquid staking นั้นยังคงน่าจับตามองต่อในเดือนธ.ค.นี้
จากภาพรวมข้างต้น เนื่องจากปัจจัยเชิงพื้นฐานและเชิงราคาของ Bitcoin ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เดือนธ.ค. Merkle Capital จึงมีมุมมองว่าเทรนด์ Bitcoin ยังมีโอกาสเติบโตได้สูง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของ Cryptomind Advisory ที่ได้มีการคาดการณ์ว่า BTC อาจขึ้นไปทดสอบที่ราคา 42,500 ดอลลาร์
นายพีระสิทธิ์ จิวะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของปัจจัยที่สนับสนุนราคา BTC ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจำนวนเงินที่ไหลเข้าสู่ตลาดคริปโทฯ ที่มากสุดในรอบ 20 เดือน (นับตั้งแต่เดือน เม.ย.65) อีกทั้งการอนุมัติ Bitcoin SPOT ETF ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือน ม.ค.67 ซึ่งหาก Bitcoin SPOT ETF ได้รับการอนุมัติ เหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้ Bitcoin เป็น Asset Class สำหรับโลกการลงทุนในอนาคต