ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,381.46 จุด ลดลง 8.09 จุด (-0.58%) มูลค่าซื้อขายราว 22,776 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีย่อตัวลงตามภูมิภาค ทำระดับสูงสุด 1,384.52 จุด และต่ำสุด 1,373.34 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าย่อตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ปัจจัยกดดันมาจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกเบนซินเพิ่มมากกว่าคาด ทำให้นักลงทุนกังวลดีมานด์ชะลอตัว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันและโรงกลั่นร่วงลงถ่วงตลาด อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวต่ำกว่าคาดสะท้อนภาพรวมเศรษฐกิจอาจเริ่มมีปัญหา หรือมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในอนาคต
แนวโน้มภาคบ่ายคาดตลาดฯ น่าจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้บ้างหลังเข้าสู่โซนแนวรับ 1,370 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ดัชนีย่ำฐานมาแล้ว 3 ครั้งก็น่าจะยังรับอยู่ โดยให้เป็นแนวรับ 1,370 จุด และแนวต้าน 1,390 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การเปิดขายกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG) 22 กองทุนในวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.66) ซึ่งภาครัฐคาดหวังจะมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยราว 10,000 ล้านบาท น่าจะเห็นเม็ดเงินเข้าลงทุนในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ธ.ค.มองว่าน่าจะสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นได้
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,995.10 ล้านบาท ปิดที่ 139.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,731.99 ล้านบาท ปิดที่ 35.50 บาท ลดลง 0.25 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,265.02 ล้านบาท ปิดที่ 7.05 บาท ลดลง 0.35 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,044.02 ล้านบาท ปิดที่ 60.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 668.34 ล้านบาท ปิดที่ 25.50 บาท ลดลง 0.25 บาท