MASTER ร่วง 5.44% มาที่ 56.50 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขายที่ 51.45 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.03 น. โดยเปิดตลาดที่ 57.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 57.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 56.25 บาท
ราคาหุ้น บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) ร่วงลงตั้งแต่เปิดตลาดวันนี้ จากแรงขายทำกำไรหลังจากเปิดเผยข้อมูลดีลใหญ่ส่งท้ายปีด้วยการเข้าร่วมทุนใน V Square Clinic ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟีลเลอร์ ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 720 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จากการทำดีล M&A และ JV มาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่โบรกเกอร์มองบวกต่อการทำดีลที่ 10 ด้วยการเข้าซื้อหุ้น V Square เพราะจะช่วยหนุน Upside พร้อมทั้งคาดว่า MASTER ยังจะเดินหน้าทำดีลต่อเนื่องอีก 1-2 ดีลในปี 67 โดย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า V Square ประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ปัจจุบันมี 24 สาขาใน กทม.และปริมณฑล มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงด้านการฉีด Filler โดยรายได้หลัก 90% มาจากหัตถการประเภทฉีด หากอิงงบการเงินปี 65 จากกระทรวงพาณิชย์ V Square มีรายได้และกำไรสุทธิ 830 ลบ. และ 11.5 ลบ. ตามลำดับ
ปัจจุบัน MASTER อยู่ระหว่างปรับปรุงงบการเงินและการตรวจสอบสถานะกิจการของ V Square คาดจะแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ใน Q1/67
หากอิงคาดการณ์กำไรของ V Square ปี 66-67 ของบริษัทที่ราว 80 ลบ. และ 120 ลบ พบว่ามูลค่าที่ซื้อขายจะคิดเป็น PE ที่ 22.5x และ 15x ตามลำดับ ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น MASTER ปี 67 (ไม่รวม V Square ที่ 67 บาท หากกำไร V Square ปี 67 ทำได้ตามที่บริษัทคาดการณ์ ราคาเป้าหมายจะเพิ่มขึ้นอีก 5 บาท เป็น 72 บาท (มาจาก Organic 59 บาท และ Inorganic 10 ดีล ราว 13 บาท)
ขณะที่ บล.ดาโอ ระบุว่า คงคำแนะนำ "ซื้อ" บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) ที่ราคาเป้าหมาย 99.00 บาท อิงปี 67 PER 45.0x (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าเทรดในตลาด) หลังจากประกาศดีล V Square Clinic ดีลสุดท้ายของปี 66 ตามคาด
เรามีมุมมองเป็นบวกจากการประกาศดีลในครั้งนี้ ยังเป็นไปตามแผนที่บริษัทได้แจ้งไว้ โดยผู้บริหารคาดกำไรสุทธิในปี 67 ของ V Exclusive จะอยู่ที่ 120 ล้านบาท (+50% YoY) จากจำนวนลูกค้าที่เติบโตต่อเนื่อง, SSSG ขยายตัว, การขยายสาขาและเพิ่มสินค้าและบริการ บริษัทคาดกำไรปี 66 ที่ 80 ล้านบาท (+592% YoY)
เบื้องต้น เรามองว่าราคาที่เข้าลงทุนนั้นไม่แพง โดยคิดเป็น ปี 67 PER ที่ 15x อีกทั้ง V Square ประกอบกิจการคลินิกความงาม คาดช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัทให้ครอบคลุมมากขึ้น ปัจจุบัน V Square มีจำนวน 25 สาขาทั่วกรุงเทพและปริมณฑล และมีแผนขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 6 สาขาในปี 67
คาดกำไรปี 66-67 เติบโตสูงต่อเนื่อง เราคาดกำไรสุทธิของ MASTER ไตรมาส 4/66 ขยายตัว YOY, QOQ จาก high season, utilization rate ห้อง OR ใหม่ขยายตัว ประเมินกำไรสุทธิปี 66 ที่ 414 ล้านบาท (+38% YOY) ด้านปี 67 คาดกำไรสุทธิที่ 579 ล้านบาท (+40% YOY) จากการรับรู้ new OR capacity เต็มปี , GPM เพิ่มขึ้น จาก utilization rate ที่ดีขึ้น และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Wind Clinic และ KIN เต็มปี
คงราคาเป้าหมายที่ 99 บาท ปี 67 PER 45.0x (ใกล้เคียงกับ PER เฉลี่ยตั้งแต่เข้าเทรดในตลาด) เราชอบ MASTER จาก 5 ปัจจัยหลัก ดังนี้ 1. เป็นธุรกิจที่เกาะเทรนด์เติบโตของอุตสาหกรรมความงาม, 2. เป็น รพ.ศัลยกรรม Top 5 ของไทย อีกทั้งยังปิน Healthcare business platform ที่ครบวงจร, 3. unlock capacity หนุนการเติบโตระยะยาว โดยในปี 66 มีพื้นที่ให้บริการ (+144% YoY), 4. ปี 65-67 EPS CAGR สูงถึง 39% และ 5. มี upside จาก M&A ดีล
ส่วน บล.ลิเบอเรเตอร์ ให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์หุ้น MASTER ที่ 79.50 หลังประกาศเข้าลงทุน V Square Clinic ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Filler และ Botox มี 25 สาขาทั่วกรุงเทพ โดยเข้าไปลงทุนสัดส่วน 40% ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 720 ล้านบาท เรามองเป็นบวกต่อดีลนี้ ซึ่งจะช่วยต่อยอดธุรกิจที่เป็นหัตถการด้านฉีดมากยิ่งขึ้น เบื้องต้นหากอิงสมมติฐานอัตรากำไรของธุรกิจเสริมความงามที่ 12.5% และอัตราการเติบโตของธุรกิจที่ 9% ต่อปี คาดจะเป็น Upside ต่อประมาณการปีหน้าราว 45 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นส่วนเพิ่ม +7.9% ของคาดกำไรปี 67