บมจ.มาสเตอร์ สไตล์ (MASTER) ลุยต่อลุ้นปิดดีลใหม่ต้นปี 67 จากในมือมีอีกเพียบหนุนขยายอาณาจักร หลังทุ่มกว่า 720 ล้านบาทเข้าผนึกคลีนิกฟีลเลอร์ชื่อง V Square ยืนยันเงินในกระเป๋าพร้อมอีก 300 ลบ.และยังเปิดกว้างใช้เครื่องมือการเงินอื่นหากต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หวังทยอยเก็บเกี่ยวดอกผลจากดีล M&P ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องหนุนผลงาน All Time High ไม่หยุด วางเป้า ปี 67 รายได้เติบโตมากกว่า 20% เตรียมเริ่มกระบวนการย้ายจาก mai เข้า SET ในไตรมาส 2/67
MASTER ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้อนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นบริษัท วี เอ็กคลูซีฟ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งดำเนินกิจการคลินิกเสริมความงามภายใต้ชื่อ "วี สแควร์ คลินิก (V Square Clinic) จำนวน 186,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 200 บาท คิดเป็น 40% ของทุนจดทะเบียนของ V Square จากผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละประมาณ 3,870.97 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 720 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาซื้อขายดังกล่าวอาจมีการปรับ โดยขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบสถานะกิจการและการตรวจสอบฐานะการเงินของ V Square
บริษัทจะเข้าลงนามในข้อกำหนดและเงื่อนไขที่สำคัญเบื้องต้น (Indicative Term Sheet) กับผู้ถือหุ้นเดิม เพื่อกำหนดข้อตกลงและเงื่อนไขเบื้องต้นในการเข้าลงทุน และบริษัทจะเข้าลงทุนใน V Square ต่อเมื่อพอใจในผลการตรวจสอบสภาพกิจการว่าไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่มีผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจการหรือราคาซื้อขาย โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/67
นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER กล่าวว่า กระบวนการทำดีล V Square โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างทางการเงินน่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/67 และจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาใน MASTER ในช่วงไตรมาส 3/67 เป็นต้นไป ซึ่งเท่าที่ทำดีลผ่านมา 10 ดีล บริษัทเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาแล้ว 3 ดีล ทำให้เห็นว่ากำไรเฉพาะในไตรมาส 3/66 ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่บริษัทก่อตั้งมา (All time high) เกือบ 100 ล้านบาท ซึ่งในระยะต่อไปจะทยอยรับรู้กำไรของบริษัทที่ได้ทำดีลไว้เข้ามาต่อเนื่อง และหนุนต่อกำไรของ MASTER ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
ทั้งนี้ งบการเงินของ V Square ในปี 65 มีรายได้ 823.82 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 11,529,972.60 บาท
นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MASTER เปิดเผยว่า หลังจากปิดดีล V Square เป็นดีลที่ 10 ของปีนี้แล้วในปี 67 บริษัทยังมีดีลที่เป็น M&P (Mergers and Partnership) อีกหลายดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจา เบื้องต้นช่วงต้นปี 67 จะมีประกาศดีล M&P อีกอย่างน้อย 1 ดีล ที่จะเข้ามาเสริมธุรกิจให้กับ MASTER ซึ่งบริษัทยังมีเงินจาก IPO ที่รองรับการทำดีลอีก 300 ล้านบาท หลังจากที่ผ่านมา 10 ดีลใช้เงินไป 1.5 พันล้านบาท
"บริษัทยังมีความพร้อมด้านการลงทุนในการรองรับการทำดีลต่างๆ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจหลักของ MASTER ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ที่บริษัทยังไม่ได้ใช้ หากมีความจำเป็นต้องทำดีลที่ต้องใช้เงินมากขึ้น สามารถมีเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ที่นำมาใช้ได้"นางสาวลภัสรดา กล่าว
นายแพทย์ระวีวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในปี 67 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% เป็นการทำ All Time High ต่อเนื่อง โดยยังเห็นแนวโน้มของเทรนด์ธุรกิจเสริมความงามจากทุกเพศทุกวัยที่หันมาใส่ใจด้านความสวยงาม รูปลักษณ์ หน้าตา มากขึ้น ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความงามยังเติบโตได้ดี ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจ
ส่วนแผนการที่ MASTER จะย้ายจาก mai ไปเข้า SET นั้น คาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาส 2/66 ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในการเตรียมย้ายเข้าสู่ SET หลังจากที่เข้ามาจดทะเบียนใน mai ซึ่งสร้างการเติบโตและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจมาต่อเนื่อง ประกอบกับมีนักลงทุนจำนวนมากเรียกร้องอยากให้บริษัทย้ายเข้าไปอยู่ใน SET เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุน และความน่าสนใจของหุ้น MASTER มากขึ้น