กระทรวงการคลัง สภาธุรกิจตลาดทุนไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว "กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน" (Thailand ESG Fund : Thai ESG) โดย 8 ธันวาคมนี้ เปิดเสนอขายพร้อมกันถึง 22 กองทุนจาก 16 บริษัทจัดการลงทุน ตั้งเป้าระดมเงินลงทุนได้ 10,000 ล้านบาทภายในปี 66 เชื่อมั่นช่วยกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวของประชาชนในการออมระยะยาวเพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดีในอนาคตและขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) มั่นใจว่า Thai ESG จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน ซึ่งยังมองว่าเม็ดเงินที่เข้ามาในกองทุน Thai ESG ในช่วงเดือนธ.ค.ที่เหลืออยู่นี้จะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยที่มองว่ากองทุนรวม Thai ESG จะสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ที่มีเงินฝากในธนาคารพาณิชย์แบ่งสัดส่วนเงินฝากเข้ามาลงทุนในกองทุน Thai ESG เพราะให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินในธนาคารเพียงอย่างเดียว ส่วนในปี 67 ตั้งเป้าจะมีเม็ดเงินเข้ามาในกองทุนรวม Thai ESG ไว้ที่ 2-3 หมื่นล้านบาท
การจัดตั้ง Thai ESG ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐโดยให้สิทธิประโยชน์ ทางภาษีแก่ผู้ลงทุน จะเป็นหนึ่งในกลไกหลักของตลาดทุนเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยสามารถบรรลุ เป้าหมายความยั่งยืนของประเทศโดยเฉพาะเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี ค.ศ. 2065 ตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ใน Paris Agreement เป็นแรงผลักดันให้บริษัทจดทะเบียนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยเฉพาะการดำเนินกิจการที่คำนึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมมาภิบาล (ESG) รวมทั้งช่วยสร้างให้เกิดความเพียงพอของการออมเพื่อการเกษียณของประชาชน
นางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า นักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะบริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) ถือเป็น stakeholder ที่จำเป็นและสำคัญมากในกระบวนการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน เพราะเป็นตัวกลางช่วย Unlock value เป็นสะพานเชื่อมต่อ supply ซึ่งคือบริษัทจดทะเบียนและดีมานด์ คือ ผู้ลงทุนไทย
สำหรับความร่วมมือในการออกกองทุน Thai ESG ครั้งนี้จึงนับเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าหมายเพื่อสร้างความยั่งยืน ครอบคลุมทุกมิติ ESG และเพื่อเป็นช่องทางการออมที่มีประสิทธิภาพในระยะยาวของประชาชน สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือกองทุน Thai ESG ในระยะแรกจะครอบคลุมบริษัทจดทะเบียนไทยรวม 200 กว่าบริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีความโดดเด่นด้านความยั่งยืน และหรือมีการเปิดเผยข้อมูลและตั้งเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืน เป็นต้น โดย Thai ESG จะต้องจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI) กับ ก.ล.ต. ที่เป็นหลักเกณฑ์การลงทุนอย่างยั่งยืน ตามหลักสากล และมีการกำกับดูแลเข้มข้นกว่ากองทุนรวมทั่วไป
โดยกองทุนที่จัดตั้งขึ้นจะกำหนดนโยบาย กลยุทธ์การลงทุน แนวทางการคัดเลือกหลักทรัพย์ การลงทุน การติดตามการลงทุน การทำหน้าที่ active engagement ตลอดไปจนถึงการเปิดเผยผลการบริหารจัดการกองทุนว่าสอดคล้องหรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ด้านความยั่งยืนที่กองทุนนั้นๆกำหนดไว้หรือไม่ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือของ บลจ. สมาชิกเพื่อร่วมกันตรวจสอบติดตามบริษัทจดทะเบียนที่อาจไม่ปฏิบัติตาม ESG โดยกำหนด AIMC ESG Policy and Collective Action และการจัดทำ Negative List เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้จัดการกองทุนใช้กลั่นกรองบริษัทจดทะเบียนเพื่อลงทุนอีกด้วย กระบวนการทั้งหมดนี้แสดงถึง commitment ของ บลจ./กองทุน ผู้ลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าการลงทุนของตนจะมีส่วนช่วยผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทย และบริษัทผู้ออกตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืนให้มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และเป้าหมาย Net Zero และเป้าหมายความยั่งยืนของประเทศอย่างจริงจัง
โดยในครั้งนี้มีบลจ.รวมพลังกันจัดตั้งกองทุน Thai ESG จำนวน 22 กองทุน จาก 16 บลจ. ซึ่งมีสัดส่วนทางการตลาดรวมกว่า 98% ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.ThailandESG.com และมั่นใจว่าในช่วงการเสนอขายกองทุนรวม Thai ESG ที่เหลือ 3 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค. 66 จะมีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาตามเป้า 1 หมื่นล้านบาท หรือราว 1 แสนบัญชี ซึ่งทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนคาดว่ากองทุน Thai ESG จะสามารถดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามามากขึ้น
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมฯ พร้อมสนับสนุนมาตรการทางภาษีเพื่อให้เกิดแรงจูงใจในภาคประชาชนต่อการลงทุนเพื่อเป้าหมายความยั่งยืน การระดมทุนที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะเป็นกลไกผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัวและให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน อันจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก พร้อมๆ กับการที่ประเทศไทยจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals หรือ SDGs) ของสหประชาชาติ รวมทั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุน Thai ESG ที่ภาครัฐได้ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินด้านความยั่งยืนเพื่อเพิ่มหลากหลายให้กับกองทุนรวม ด้านความยั่งยืน สนับสนุนให้ผู้ลงทุนมีโอกาสเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ส่งเสริมความยั่งยืนของประเทศไทย โดยได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และส่งเสริมให้เกิดการออมระยะยาวผ่านกองทุนรวม เพื่อสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง ควบคู่ไปกับการส่งเสริมเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศ
สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ในการยกระดับศักยภาพตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable capital market) โดยสนับสนุน ให้ตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ภาคธุรกิจ ทั้งบริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจในตลาดทุนผนวกปัจจัยด้าน ESG เข้าไปในการดำเนินธุรกิจและกระบวนการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อเสริมสร้าง ความแข็งแรงของระบบเศรษฐกิจและสังคมไทย อีกทั้งยังตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้ลงทุนที่ให้ความสำคัญในเรื่องความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในครั้งนี้ ก.ล.ต.ได้อนุมัติการจัดตั้งกองทุน Thai ESG ชุดแรกจำนวน 22 กองทุน และคาดว่าจะมีจำนวนกองทุนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆไป
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลท.ได้จัดทำ "รายชื่อหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings" เพื่อรวบรวมบริษัทจดทะเบียนที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ที่โดดเด่น ซึ่งในปี 66 นี้ มีบริษัทจดทะเบียนได้รับคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนถึง 193 บริษัท นอกจากนี้ ยังพัฒนา "SET ESG Data Platform" เพื่อจัดการข้อมูลด้าน ESG อย่างเป็นระบบ และจัดทำดัชนี SET ESG ให้ผู้เกี่ยวข้องใช้เป็น benchmark และนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์
การจัดตั้งกองทุน Thailand ESG Fund จะในครั้งนี้ จะเป็นปัจจัยให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญและเร่งพัฒนาธุรกิจ ตามหลัก ESG มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้าน ESG เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุน ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ ผู้ลงทุนไทย ที่จะได้ลงทุนอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคต อีกทั้งยังช่วยในการขยายฐานและมีผู้ให้ความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสนับสนุนกองทุน Thailand ESG Fund อย่างเต็มที่ ทั้งการให้ความรู้ และการประชาสัมพันธ์แก่ผู้ลงทุน โดยได้ร่วมจัด Mutual Fund Fair ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.นี้ ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้ข้อมูล แนะนำกองทุนรวม Thai ESG แก่ผู้สนใจ อีกด้วย