"บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป" ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 60 ล้านหุ้นเข้า mai ใช้พัฒนาธุรกิจ-คืนหนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 13, 2023 13:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 60,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 28.57% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

วัตถุประสงค์การใช้เงิน 1.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในดำเนินงานของบริษัทและเพื่อการขยายธุรกิจปกติ (Organic Expansion) ในตลาดที่บริษัทดำเนินงานอยู่ ซึ่งบริษัทมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้นตามการเติบโตของบริษัท 2.ใช้พัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) สร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ราว 30 ล้านบาท และ 3.ชำระคืนเงินกู้ยืมบุคคลอื่น 69 ล้านบาท ซึ่งกู้มาเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป ประกอบธุรกิจบ้านมือสองตกแต่งใหม่ โดยรับฝากขายบ้านมือสองพร้อมกับการปรับปรุงซ่อมแซมก่อนขาย เน้นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ให้มีสภาพใหม่พร้อมอยู่อาศัย มีการออกแบบที่สวยงาม งานซ่อมแซมมีคุณภาพ พร้อมรับประกันผลงานและให้บริการหลังการขาย ทั้งนี้บริษัทเป็นผู้ให้บริการรายเดียวที่มีใบรับประกันหลังการขาย จึงได้รับการยอมรับจากลูกค้าและได้รับการแสดงความคิดเห็นหรือรีวิวที่ดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทในสื่อสังคมออนไลน์ (social media) จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือรับฝากขายบ้านมือสอง และการรับซื้อบ้านมือสองมาทำการปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อขายต่อ

บริษัทมีโครงการอนาคต คือ วางแผนพัฒนาธุรกิจ Property Technology หรือ Prop Tech ในปี 2567 - 2569 ด้วยงบประมาณลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท โดยสร้างแพลทฟอร์มในการเป็นตัวกลางซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทั้งผู้ซื้อและผู้ขายบ้านได้รวดเร็วผ่านแพลทฟอร์มต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งผู้ต้องการซื้อ- ขายบ้านได้หลากหลายและมีจำนวนเพิ่มขึ้น

แพลทฟอร์มที่บริษัทจะสร้างขึ้นครอบคลุม (1) บริการประกาศขายบ้านมือสองและอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท (2) บริการค้นหาบ้านมือสองตามทำเล รูปแบบและการใช้สอย (Function) งบประมาณ และความต้องการอื่นๆ (3) ให้บริการเจ้าของบ้านที่ต้องการขายบ้านโดยใช้บริการของบริษัท

นอกจากนี้บนแพลทฟอร์มยังนำเสนอข้อมูลความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านมือสอง ความรู้ด้านการซ่อมแซมรีโนเวทบ้านผ่านบทความ วีดีโอ ตลอดจนทำการตลาดสร้างการรับรู้รูปแบบธุรกิจบ้านแต่งผ่านแพลทฟอร์ม และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับกลุ่มสมาชิก (Agent) ของบริษัทในรูปแบบ Exclusive services อีกทั้งยังรองรับการบริการให้บุคคลทั่วไป ธนาคาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) สามารถเข้ามาลงประกาศได้โดยคิดไม่ค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นการสร้าง Traffic กระตุ้นในเกิดการใช้งานได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 1 พ.ย.66 มีครอบครัวธนวงศ์เกษม ถือหุ้น 91,500,000 หุ้น หรือคิดเป็น 61.00% หลัง IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 43.57% นายภัคพล เพ็ชร์แย้ม 39,000,000 หุ้น คิดเป็น 26.00% จะลดเหลือ 18.57% นางสาวจรินทร์ อุณหะกะ 10,875,000 หุ้น คิดเป็น 7.25% จะลดเหลือ 5.18% นางเสาวนันท์ ถึงเสียบญวน 6,000,000 หุ้น คิดเป็น 4.00% จะลดเหลือ 2.86% นางสาวสุวิสา หวังบำรุงศักดิ์ 2,625,000 หุ้น คิดเป็น 1.75% จะลดเหลือ 1.25%

ผลประกอบการในปี 64-65 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 1,303.77 ล้านบาท และ 1,299.93 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 49.77 ล้านบาท และ 21.44 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้ 958.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 968.62 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.57 ล้านบาท จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 18.78 ล้านบาท

ณ วันที่ 30 ก.ย.66 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 263.42 ล้านบาท หนี้สินรวม 156.65 ล้านบาท และ ส่วนผู้ถือหุ้น 106.77 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และในข้อบังคับของบริษัท อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผล หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผลได้ โดยพิจารณาจากผลประกอบการ ฐานะทางการเงินของบริษัท กระแสเงินสด ความจำเป็นในการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพื่อบริหารกิจการ แผนการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในอนาคต ภาระผูกพันตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ และปัจจัยอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ