นายจารุวัฒน์ ชวลิตชีวิน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารการเงิน บมจ.เบทาโกร (BTG) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 ขาดทุนสุทธิ 784.1 ล้านบาท พลิกจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 2.3 พันล้านบาท เนื่องจากผลของการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อหมูอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้ราคาหมูในประเทศปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/66 ผลการดำเนินงานคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3/66 จากแนวโน้มราคาเนื้อสุกรมีชีวิตปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงที่ผ่านมา หลังบริษัทร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและหน่วยงานต่าว ๆ ในการจริงจังกับการตรวจจับหมูเถื่อนตามที่ต่าง ๆ
รวมทั้งปัจจัยบวกในระยะสั้น พบว่าแนวโน้มต้นทุนวัตถุดิบมีการปรับลดลง ช่วยลดต้นทุนในการผลิจได้มากขึ้นและมีโอกาสในการเพิ่มอัตรากำไรได้มากขึ้นด้วย ขณะที่แผนระยะยาวบริษัทได้ทำโครงการที่จะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาพัฒนาประสิทธิในการผลิต เพื่อให้ในอนาคตประสิทธิภาพในการผลิตสูงขึ้น
บริษัทได้ตั้งงบลงทุนในปี 67 ราว 4-5 พันล้านบาท ซึ่งจะกระจายการลงทุนในเกือบทุกสายธุรกิจ อาทิ สร้างโรงงานอาหารสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขยายฟาร์มหมู ไก่เนื้อ-ไก่ไข่ ซึ่งจะขยายตามความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังมีโรงงานแปรรูปไก่ แปรรูปหมู โรงคัดไข่ ซึ่งเป็นการลงทุนปกติของบริษัท และสุดท้ายเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาช่องทางการขายของบริษัทเอง โดยจะปรับปรุงให้ทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้แผนการขยายธุรกิจ บริษัทมีความสนใจในการขยายตลาดเดิมที่มีอยู่ให้กระจายมากขึ้น โดยในตลาดประเทศจีน บริษัทได้ส่งผลิตภัณฑ์จากโรงงานแปรรูปไก่และอื่นๆ ไปยังประเทศจีน เพื่อขยายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมและมีการกระจายตัวที่มากขึ้น และกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งได้รับอนุญาตให้มีการส่งออกสินค้าเนื้อไก่ แต่อาจจะต้องพัฒนาตลาดมากขึ้นให้ได้รับการยอมรับสินค้าจากประเทศไทย รวมทั้งประเด็นสินค้าฮาลาลที่จะต้องบริหารจัดการให้ดีขึ้น
สำหรับรายได้รวมในไตรมาส 3/66 อยู่ที่ระดับ 27,180.1 ล้านบาท ลดลง 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมาจากการลดลงของรายได้กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน แม้ปริมาณการขายจะเพิ่มขึ้นตามแผนการขยายกำลังการผลิตของบริษัท อย่างไรก็ตามรายได้กลุ่มธุรกิจเกษตร อยู่ที่ 8,171 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 9.2% YoY จากราคาขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์และกลยุทธ์ของบริษัท ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายและอัตรากำไรสูงขึ้น เช่น อาหารสุกร