ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 120 ดอลลาร์/บาร์เรล และจากข่าวที่ว่าบริษัทไมโครซอฟท์ตัดสินใจถอนตัวออกจากการซื้อกิจการบริษัทยาฮู อิงค์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 88.66 จุด หรือ 0.68% แตะระดับ 12,969.54 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 6.41 จุด หรือ 0.45% แตะระดับ 1,407.49 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 12.87 จุด หรือ 0.52% แตะระดับ 2,464.12 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.11 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 3 ต่อ 2 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.08 พันล้านหุ้น
รัสเซลล์ ครอฟท์ นักวิเคราะห์จากบริษัทครอฟท์ ลีโอมินส์เตรอ์ อินเวสท์เมนท์ เมเนจเมนท์ ในเมืองบัลติมอร์กล่าวว่า "ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 120 ดอลลาร์/บาร์เรลทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะเงินเฟ้ออาจบีบให้ผู้บริโภคต้องลดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันลง ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ"
เมื่อคืนนี้ ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้น 3.65 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 119.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 120.30 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมันในไนจีเรีย อิหร่าน และอิรัก
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยลบจากข่าวที่ว่า ไมโครซอฟท์ คอร์ป บริษัทซอฟท์แวร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐได้ล้มเลิกความพยายามที่จะซื้อกิจการของบริษัท ยาฮู อิงค์ แล้ว หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับมูลค่าในการเทคโอเวอร์
โดยเมื่อต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้เสนอซื้อกิจการของยาฮูด้วยมูลค่า 4.46 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 31 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ยาฮูปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าบริษัทมีมูลค่ามากกว่านั้นมาก
หลังจากนั้นไมโครซอฟท์จึงเพิ่มข้อเสนอเป็น 33 ดอลลาร์ต่อหุ้น แต่ยาฮูแสดงเจตจำนงค์อย่างชัดเจนว่าต้องการอย่างน้อย 37 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือมากกว่ามูลค่าที่ไมโครซอฟท์เสนอในเบื้องต้นกว่า 6 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสำหรับไมโครซอฟท์แล้ว การเพิ่มข้อเสนอเพียง 1 ดอลลาร์ต่อหุ้นทำให้ไมโครซอฟท์ต้องจ่ายเงินเพิ่มถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ หุ้นไมโครซอฟท์ร่วงลง 16 เซนต์ แตะระดับ 29.08 ดอลลาร์ ขณะที่หุ้นยาฮูดิ่งลง 15%
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้ฉุดหุ้นหลายกลุ่มร่วงลง อาทิ หุ้นสายการบินและหุ้นกลุ่มค้าปลีก โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 4.6% หและหุ้นคอนติเนนตัล แอร์ไลน์ ร่วงลง 5.4% ขณะที่หุ้นมาซี อิงค์ ดิ่งลง 4.6% และหุ้นเจ.ซี.เพนนี รูดลง 4.1%
หุ้นกลุ่มการเงินถูกเทขายหลังจากมีข่าวว่า แบงก์ ออฟ อเมริกาซึ่งเป็นธนาคารอันดับ 2 ของสหรัฐ อาจยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียล โดยหุ้นคันทรีไวด์ร่วงลงกว่า 10 % หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 2.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ปลดลง 2.4%
ส่วนหุ้นเบิร์คเชียร์ ฮาธาเวย์ ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการลดลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากธุรกิจด้านประกันซบเซาลง
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--