SET ปิดวันนี้ที่ 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.38 จุด (+0.17%) มูลค่าซื้อขาย 30,983.57 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้างสอดคล้องตลาดต่างประเทศ ขาดปัจจัยใหม่หลังตอบรับประเด็นเฟดส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้ว ขณะที่วอลุ่มเบาบาง แนวโน้มในพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์ต่อเนื่องรอลุ้นเม็ดเงินกองทุน TESG หนุน ให้กรอบดัชนี แนวรับ 1,385 จุดและแนวต้าน 1,400 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 2.38 จุด (+0.17%) มูลค่าซื้อขาย 30,983.57 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีปรับตัวลงช่วงเช้าและพลิกมาแดนบวกในช่วงบ่าย โดยทำจุดสูงสุดที่ 1,396.01 จุด และจุดต่ำสุด 1,383.89 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 261 หลักทรัพย์ ลดลง 197 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 184 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง สอดคล้องกับทิศทางตลาดต่างประเทศที่พักตัวเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่หนุนหลังจาก 2 วันที่ผ่านมาขึ้นไปราว 30 จุดตอบรับคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีหน้า
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง รวมทั้งมีแรงซื้อหุ้น DELTA หนุนดัชนีประมาณ 4 จุด ซึ่งหากตัด DELTA ออกตลาดจะอยู่ในภาพลบเล็กน้อย
แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดแกว่งไซด์เวย์คล้ายกับวันนี้ วันนี้คาดแรงซื้อส่วนหนึ่งมาจากกองทุน TESG ซึ่งเปิดขายเป็นวันสุดท้าย คาดหวังจะมีเม็ดเงินเข้ามาหนุนตลาดเพิ่ม และปลายสัปดาห์นักลงทุนรอติดตามการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ย.ของสหรัฐ
โดยพร้อมทั้งให้กรอบดัชนี แนวรับ 1,385 จุดและแนวต้าน 1,400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,900.26 ล้านบาท ปิดที่ 86.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,712.15 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 993.70 ล้านบาท ปิดที่ 54.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 993.44 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 867.99 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท