นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการ สายงานการเงินและบัญชี บมจ. พริมา มารีน (PRM) เปิดเผยว่า ในปี 67 บริษัทจะมุ่งเน้นขยายกลุ่มเรือปิโตรเคมีและธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต โดยบริษัทยังคงมุ่งเน้นหาเรือขนส่งปิโตรเคมีเสริมกองเรืออย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับโรงกลั่นในภูมิภาคที่กำลังขยายกำลังการผลิต ส่วนธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ต ประเมินว่ายังมีความต้องการสูงตามกิจกรรมการขุดเจาะสำรวจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเตรียมรับเรือ Crew Boat อีก 2 ลำ เพิ่มเติมเพื่อเข้างานระยะยาว ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพและเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการของปี 67 ให้เติบโตตามแผน
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่รายได้รวมปี 66 โตตามเป้าเติบโต 10% จากปี 65 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจขนส่งน้ำมันภายในประเทศดีขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งน้ำมันเครื่องบิน เนื่องจากเป็นช่วง High season ตามฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงจะได้รับผลดีจากการมาตรการ Free Visa ให้กับนักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล ประกอบกับเรือขนส่งปิโตรเคมีเหลวลำที่ 2 ขนาด 11,000 DWT ที่เพิ่มเข้ามาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/66 มีรายได้รวม 1,835.5 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 333.8 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,033.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,444.20 ล้านบาท
นายวิริทธิ์พล กล่าวอีกว่า บริษัทยังคงมองโอกาสในการขยายธุรกิจในส่วนของกลุ่มเรือ Offshore Support อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้สัญญาการให้บริการเรือขนส่งและที่พักกลางทะเล (Accommodation Work Barge, AWB) จาก ปตท.สผ. เพิ่มอีก 1 ลำ โดยจะรับเรือในช่วงไตรมาส 4/66 พร้อมรับรู้รายได้ตั้งแต่ ม.ค. 67 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีเรือ AWB ให้บริการในอ่าวไทยถึง 2 ลำ ตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไป