นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออม ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าแนะนำการลงทุนหุ้นกู้ทั้งในตลาดแรกและตลาดให้กับลูกค้า wealth จากแนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปี 67 จึงมองว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีสำหรับผู้ลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากธนาคารกลางในประเทศต่างๆเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในระดับที่ต่ำ และเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลงตาม จะส่งผลให้มูลค่าตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศต่างมีความน่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นกู้คุณภาพดี
รวมไปถึงการลงทุนในตราสารหนี้ประเภทอื่น เช่น Private Credit ที่มีคุณภาพสูง และตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือ Mortgage-backed securities เป็นต้น ซึ่งลูกค้ามีโอกาสที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดี ทั้งในตลาดแรกและตลาดรอง โดยที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุ 5-7 ปี ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเบื้องต้นได้ราว 4-6%
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดหุ้นกู้ไทยในปัจจุบันจะได้รับผลกระทบเชิงจิตวิทยาจากกรณีของการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้หลายตัว แต่ยังมองว่าเป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นรายบริษัท หรือเป็นปัจจัยเฉพาะตัวเท่านั้น ไม่ได้เป็นปัญหาเชิงระบบ จะไม่กระทบต่อความมั่นใจในการลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทที่ดี มีชื่อเสียง มีคุณภาพ เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส และมีธรรมาภิบาลที่ดี ประกอบกับ การที่ธนาคารมีการคัดสรรหุ้นกู้ที่มีคุณภาพดีมาให้กับลูกค้าทำให้มีความเชื่อมั่นในการลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น
"ยอมรับว่าโอกาสผิดนัดชำระหนี้บางบริษัทในปีหน้ามีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่เป็นปัญหาที่เป็น Specific เฉพาะรายบริษัทมากกว่า ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดจาก System และธนาคารเองก็มีการช่วยตรวจแอบและเลือกสรรหุ้นกู้คุณภาพดีให้กับลูกค้า ซึ่งเราขายเฉพาะหุ้นกู้ที่เป็น Investment Grade และเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสเท่านั้น" นายติยะชัย กล่าว
สำหรับเป้าหมายยอดขายหุ้นกู้ในตลาดแรกและตลาดรองของ CIMBT ในปี 67 คาดว่าจะยังคงสดใส และเห็นความคึกคักมากขึ้น ซึ่งปี 67 คาดว่า Transaction การขายหุ้นกู้ในตลาดแรกและตลาดรองของ CIMBT จะเพิ่มเป็น 1.2 แสนล้านบาท จากปี 66 ที่ 7 หมื่นล้านบาท