ศาลแพ่งรับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ พ.6055/2566 ที่กลุ่มกรรมการ บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) ได้แก่ นายประเดช กิตติอิสรานนท์ หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ และพวกรวม ได้แก่ นายณัฐพศิน เชฎฐ์อุดมลาภ นายไพโรจน์ ศิริรัตน์ นายมานพ ถนอมกิตติ นายนพพล มิลินทางกูร และ นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ยื่นฟ้อง NUSA และกรรมการที่เหลือ 7 คน คือ นายวิษณุ เทพเจริญ นายสมพิจิตร ชัยชนะจารักษ์ นางศิริญา เทพเจริญ นายสมคิด ศริ นางสิรินงคร์นาถ เพรียวพานิช นายพิบูลย์ วรวรรณปรีชา และ นายธีรธัช โปษยานนท์ ที่มอบอำนาจให้กรรมการบริหารจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัทรวม 6 รายการ คิดเป็นมูลค่าสูงกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
คำฟ้องระบุว่า การสนับสนุนให้ขายทรัพย์สิน โดยลงมติในการประชุมคณะกรรมการ NUSA ครั้งที่ 12/2556 วันที่ 7 ธ.ค.66 เป็นการกระทำละเมิดพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (ฉบับแก้ไข) เรื่องการได้มาหรือจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญของบริษัท เพราะสินทรัพย์ดังกล่าวมูลค่ารวมมากกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนสูงเกือบ 70% ของทรัพย์สินทั้งหมดของ NUSA ที่มีมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีแผนรองรับที่ชัดเจน ย่อมกระทบต่อธุรกิจ และประเภทธุรกิจที่ NUSA ดำเนินการอยู่อย่างแน่นอน หากจะดำเนินการขายได้ตามกฎหมาย ต้องได้รับมติเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเท่านั้น เช่นเดียวกับตอนที่บริษัทซื้อทรัพย์สินที่มีนัยสำคัญเข้ามา ก็ต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเช่นกัน
ดังนั้น กรรมการ NUSA นำโดยนายประเดช และพวก รวม 6 คนจึงขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการดังกล่าว และสั่งห้ามไม่ให้กรรมการอนุมัติให้ขายทรัพย์สินทั้ง 6 รายการต่อไปอีก จนกว่าจะได้รับการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเสียก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่มีเกือบ 1 หมื่นราย และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง