บมจ.ณุศาศิริ (NUSA) เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งข้อชี้แจงประเด็นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สอบถาม ดังนี้
1. กรณีเกี่ยวโรงแรม Panacee Grand Hotel Roemerbad ซึ่งปัจจุบันเป็นของ NUSA แล้ว แต่รอแค่ใบอนุญาตดำเนินการโรงแรม โดยสามารถกลับรายการสินทรัพย์เป็นบวกพร้อมตีราคาตลาดรับรู้กำไรทันที เนื่องจากเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ในทำเลใกล้ทั้งเมืองท่องเที่ยวของเยอรมนี คือ Baden Baden และ Freiburg im Breisgau สามารถขับรถไป Stuttgart, Strasbourg, Luzern สวิตเซอร์แลนด์ หรือไปเที่ยวเมือง Colmar ฝรั่งเศส ทำเลดีเยี่ยม และตัวอาคารโรงแรมเป็น National Heritage ของเยอรมนีด้วย
2. กรณีการการขายทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งเป็นโครงการค้างสต็อก จากเงื่อนไขของการขายน่าเป็นห่วงคนซื้อมากกว่า เพราะผู้ซื้อต้องลงทุนอีกมากกับแปลงที่ดินเปล่า โดยในตอนนี้ตลาดรู้ดีว่ามีคนเร่ขายกันเพียบแต่คนซื้อไม่กล้าควัก มาเคสนี้คนซื้อกำไรต้องแบ่งกำไรให้ NUSA ครึ่งหนึ่ง แถมต้องรับขาดทุนคนเดียว ซึ่ง NUSA มีข้อสงสัยกับคำถามของตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นห่วงคนขายหรือคนซื้อกันแน่
3. ตลาดหลักทรัพย์ฯทำไมถึงต้องตกใจเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน โดยวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเกินกว่ายอดเงินกู้ยืม 5 เท่า ซึ่งในความเป็นจริงแล้วราคาทุนกับราคาตลาดเป็นคนละเล่ม เพราะถ้าเทียบราคาตลาดก็แค่ 2 เท่ากว่า ถ้าคิดราคาหุ้น DEMCO วันนี้ ซึ่ง NUSA มองว่าที่น่าห่วงผู้ให้กู้มากกว่า
4. ความคืบหน้าการติดตามหนี้เงินให้กู้ยืมจาก มอร์ มันนี่ ซึ่งปัจจุบันครบกำหนดชำระหนี้ โดยมีการขยายระยะเวลามาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่ง ตลท.ขอให้สรุปยอดหนี้และดอกเบี้ย ที่ผ่านมาบริษัทได้รับชำระดอกเบี้ยหรือไม่ และข้อสรุป หรือความคืบหน้าในการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายกับ มอร์ มันนี่
NUSA ระบุว่ากว่าที่ประเทศไทยจะนำ Rolling Loud มาจัดได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย NUSA ถือว่าส้มหล่น เพราะได้เป็นสถานที่จัดงาน 5 ปีรวด นอกจากประโยชน์จากการมีผู้ร่วมพัฒนาที่ดิน จัดงานแต่ละทีผู้เข้าร่วมงาน มาจากทุกสารทิศ มีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ หากอยากได้เงิน 50 ล้านบาทคืน แค่ทำเพียงประกาศขายสิทธิการจัด น่าจะได้มากกว่า 50 ล้านบาทด้วยซ้ำ แต่ยอมช่วงนี้มีคนอ่อนไหวกับคำว่าขายทรัพย์สินของ NUSA