หุ้นไทยในปี 67 จะมีทิศทางเป็นอย่างไร "อินโฟเควสท์" รวบรวมมุมมองของโบรกเกอร์ต่อดัชนี SET ปี 67 ที่ต่างเห็นว่าปีหน้าจะดีกว่าปีนี้ โดยให้เป้าหมาย SET ที่ 1,470-1,717 จุด จากปี 66 ที่คาดว่าดัชนีจะปิดท้ายปี 1,350-1,430 จุด ปัจจัยสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจไทยคาดว่า GDP จะโตกว่า 3% หากมีเงินดิจิทัลวอลเล็ตก็จะช่วยเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง ประเมินนักท่องเที่ยวไว้ที่ 30-35 ล้านคน จากปีนี้คาดไว้ 27-28 ล้านคน และส่งออกคาดว่าจะดีขึ้น
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนแล้วที่จะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า ยิ่งทำให้บรรยากาศการลงทุนคึกคัก โดยในเดือน ม.ค.67 มองว่าหุ้นไทยจะเกิด January Effect เงินทุนต่างชาติไหลกลับมา และหุ้นไทยเข้ามาอยู่ในโซนน่าลงทุนแล้วหลังลงมายืนบริเวณ 1,400 จุด อีกทั้งมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจคือ Easy e-Receipt และ เม็ดเงินจากองทุน TESG เข้ามาหนุน โดยสถิติ หุ้นไทยไม่เคยติดลบ 2 ปีซ้อน
โบรกเกอร์ เป้าหมาย ปี 2567 คาดปิดปี 2566 กสิกรไทย 1,470 1,350-1,400 ฟินันเซีย ไซรัส 1,520 1,430 หยวนต้า 1,520 1,430 ทิสโก้ 1,550 1,420 ยูโอบีเคย์เฮียน 1,600 1,430 ลิเบอเรเตอร์ 1,630 1,400 เมย์แบงก์ 1,640 1,430 เอเซียพลัส 1,717 1,415-1,420
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย
- เป้า SET ในปี 67 ที่ 1,470 จุด จากสิ้นปี 66 คาดดัชนีจะเคลื่อนไหว 1,350-1,400 จุด
- เริ่มเห็นตลาดหุ้นไทยดีขึ้นในไตรมาส 2/67 จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลงในครึ่งปีหลัง และบอนด์ยีลด์ลดลง อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้เม็ดเงินจะกลับมาตลาดหุ้นกลุ่ม Emerging Market ขณะที่ปัจจัยในประเทศเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตจะมีความชัดเจนมากขึ้น
- ปัจจัยระยะสั้นติดตามหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในปี 67 มูลค่ารวมราว 1 ล้านล้านบาทโดยในไตรมาส 1/67 จะมีหุ้นกู้ครบกำหนดจำนวนมากต้องติดตามว่าหุ้นกู้เหล่านี้จะ Rollover ได้หรือไม่ โดยในส่วนหุ้นกู้ที่มีจำนวนที่ครบกำหนดชำระจำนวนมาก จะมีผลต่อสภาพคล่องในระบบลดลง และมีความกลัวว่า หุ้นกู้ที่ออกมาใหม่มีโอกาสสูงที่จะขายไม่หมด หรือไม่ครบตามเป้าจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อตลาดหุ้น
รวมทั้งดิจิทัลวอลเล็ตที่จะอยู่ขั้นตอนพ.ร.บ.กู้เงิน ผ่านหรือไมเพราะจะกระทบต่อ GDP 0.5% โดยหากผ่านก็จะทำให้ GDP ปี 67 โต 3.6% แต่กหากไม่ผ่าน คาด GDP จะเติบโต 3.1% และ นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาน้อย โดยในปี 67 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 30.6 ล้านคน
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล,Cisa ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้
- เป้า SET ในปี 67 ที่ 1,550 จุด บน P/E 17.9 เท่า จากคาดสิ้นปี 66 ปิดที่ 1,420 จุด
- เศรษฐกิจไทยเริ่มทิศทางดีขึ้น จากงบประมาณรายจ่ายปี 67 ที่จะเข้ามา การฟื้นตัวของการท่องที่ยวยังมีต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางดอกเบี้ยน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว มีแต่คงและลดลง โดยคาดว่าจะเริ่มเห็นอัตราดอกเบี้ยปรับลงในช่วงกลางปี 67 ขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจ
- เห็นโอกาสเกิด January Effect 60-70% จากตัวเลขสถิติที่ผ่านมา
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,630 จุด จากปี 66 คาดปิดที่ 1,400 จุด
- ตลาดหุ้นปี 67 น่าจะดีขึ้นได้รับปัจจัยเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดโต 3.5% รับแรงหนุน มาตรการรัฐบาล โดยเฉพาะเงินดิจิทัลวอลเล็ต และส่งออกน่าจะปรับตัวดีขึ้น ท่องเที่ยวคาดปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน ส่วนในสหรัฐ จะเห็นดอกเบี้ยปรับลดลง ทำให้คาดว่าตลาดหุ้นน่าจะมีแรงเหวี่ยง
- ช่วงต้นปี 67 ตลาดหุ้นมีโอกาสเกิด January Effect เม็ดเงินกองทุนกลับมา และดูจากสถิติ หุ้นไทยไม่เคยติดลบ 2 ปีซ้อน โดยปี 66 ตลาดหุ้นไทยติดลบ 16-17%
"ตลาดหุ้น ม.ค. เป็นบวก ปีนี้ Start ที่ระดับ 1,400 จุด อยู่โซนน่าลงทุน น่าจะเกิด January Effect ตลาดต่างประเทศ Outperform มานาน ม.ค.-ก.พ.มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ e-Recipt" นายวิจิตร กล่าว
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,520 จุด P/E 16 เท่า จากปี 66 คาดปิดที่ 1,430 จุด ประเมิน EPS ปี 67 ดีขึ้นมาที่ 95 บาท/หุ้น จาก 81 บาทในปี 66
- มุมมองเศรษฐกิจปี 67 ดีขึ้นคาด GDP เติบโต 3.1% จาก 2.5% ปี 66 อัตราดอกเบี้ยผ่านจุดสูงสุดแล้ว คาดว่าเม็ดเงินต่างชาติจะไหลเข้า และคาดครึ่งปีหลัง กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลง
- เดือน ม.ค.67 มองโอกาสเกิด January Effect ปัจจัยหนุนจากมาตรการ Easy e-Receipt และแรงซื้อจากกองทุน TESG
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,520 จุด จากคาดปิดสิ้นปี 66 ที่ 1,430 จุด
- ในไตรมาส 1/67 ตลาดหุ้นไทยน่าจะดี เพราะไม่ค่อยมีปัจจัยลบมากดดันมากนัก ขณะที่มาตรการ Easy e-Receipt เป็นปัจจัยบวกหนุนตลาด มองว่ามีโอกาสเกิด January Effect ขณะที่ไตรมาส 2-3 ปี 67 ตลาดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ
- ปัจจัยสนับสนุนตลาดจากการเติบโตเศรษฐกิจไทยดีขึ้น โดยรัฐเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ในปี 67 คาดเติบโต 3.8% (รวมดิจิทัลวอลเล็ต) หากไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต GDP จะโต 3.3% จากปีนี้คาด GDP โต 2.5%
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)
- เป้าดัชนี SET ปี 67 ที่ 1,600 จุด จากปี 66 คาดปิดที่ 1,430 จุด
- ภาพเศรษฐกิจไทยปี 67 คาดโต 3.2% จากปีนี้โต 2.5% หากรวมดิจิทัลวอลเล็ต คาดว่าจะผลักดัน GDP โตเพิ่มเป็น 3.8%
- ปี 67 แม้หุ้นอาจจะไม่ดีทั้งหมด แต่มีกลุ่ม Valuation ไม่แพง ปันผลดี อาทิ กลุ่มที่ปรับตัวลงไปมากจากรับผลกระทบนโยบายรัฐบาล เช่น โรงไฟฟ้า และ ค้าปลีก แม้ 2 กลุ่มนี้มี P/E สูง โดยแนะนำ ADVANC , BDMS, EGCO, EA, BSRC, MAJOR, PTT, SCB. TU
นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,640 จุด จากปี 66 คาดปิดที่ 1,430 จุด ส่วน EPS ในปี 67 คาดไว้ 97 บาท/หุ้น เติบโต 14% จากปีก่อนที่มี EPS ที่ 85 บาท/หุ้น
- มุมนโยบายการเงินสหรัฐ ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นน่าจะจบลงแล้ว และจะปรับลงในปี 67 และคาดกว่า กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยลง 1 ครั้ง
- ความเสี่ยงในปีหน้ายังมีเรื่องความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังมีความไม่แน่นอน เงินเฟ้อที่อาจปรับตัวลงช้ากว่าคาดอาจทำให้นโยบายการเงินอาจไม่ผ่อนคลาย
- January Effect มองว่ามีโอกาสมาก เพราะตลาดหุ้นไทยในในโซนราคาไม่เพง
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,680 จุด บนสมมติฐาน GDP ไทยโตเร่งขึ้นเป็น 3.4% (ไม่รวมเงินดิจิทัลวอลเล็ต) จากปี 66 คาด SET ปิดที่ 1,430-1,460 จุด
- ปัจจัยสนับสนุนจากดอกเบี้ยในตลาดโลกจะมีทิศทางขาลง ภาพการลงทุนตลาดหุ้นต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนไทย SET Valuation ยังอยู่ Value Zone
- เดือน ม.ค.67 เชื่อเกิด January Effect จากเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า และจากกองทุน TESG
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เอเซียพลัส
- เป้า SET ปี 67 ที่ 1,717 จุด จากสิ้นปี 66 ที่คาดว่าจะปิดที่ 1,415-1,420 จุด โดยให้ EPS ปี 67 ไว้ที่ 99.80 บาท เพิ่มขึ้น 12.6% รับดอกเบี้ยทิศทางปรับลง
https://youtu.be/jTFkbqVj0bY