นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดไร้ปัจจัยใหม่หนุน เกาะติดประชุม ครม.วันนี้เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอย่างไร หากปรับตามมติไตรภาคีมองเป็นภาพกลาง ๆ อาจเป็นบวกต่อตลาดเล็กน้อย ประเด็นต่างประเทศติดตามสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสตึงเครียดเพิ่มขึ้น ให้กรอบแนวรับ 1,400 จุด แนวต้านแรก 1,420 จุด ถัดไป 1,430 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างคาบเกี่ยววันหยุดเทศกาลคริสต์มาสของต่างประเทศ และยังไม่มีประเด็นใหม่เข้ามาหนุน คาดว่าจะแกว่งกรอบ 1,400-1,415 จุด
ขณะที่การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ติดตามความคืบหน้านโยบายการปรับค่าแรงขั้นต่ำ หากมีมติให้ขึ้นตามมติคณะกรรมการไตรภาคีเป็นวันละ 350-370 บาท มองกลางๆ อาจเป็นบวกต่อตลาดเล็กน้อย เนื่องจากแรงกดดันด้านต้นทุนไม่มาก ส่วนประเด็นต่างประเทศติดตามสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งเมื่อคืนนี้ (25 ธ.ค.) มีการโจมตีทางอากาศ ส่งผลให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้น
วันนี้ให้กรอบแนวรับ 1,400 จุด แนวต้านแรก 1,420 จุดและถัดไป 1,430 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 ธ.ค.66) ปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,295.68 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 41.65 จุด หรือ +0.13% ขณะที่ และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ ระดับ 2,917.97 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.03%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ธ.ค.66) ที่ 1,408.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด (+0.27%) มูลค่าซื้อขาย 21,854.40 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 287.84 ล้านบาท
- ตลาดน้ำมัน (25 ธ.ค.66) ปิดทำการเนื่องในวันคริสต์มาส
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ธ.ค.66) อยู่ที่ 7.09 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.60 บาท/ดอลลาร์ ธุรกรรมเบาบางใกล้หยุดปีใหม่ คาดกรอบวันนี้ 34.50-34.70 บาท/ดอลลาร์
- "พาณิชย์" เผยการส่งออก พ.ย.ขยายตัว 4.9% มูลค่า 23,479 ล้าน บวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 รวม 11 เดือน ติดลบ 1.5% ลุ้นเดือนสุดท้ายหนุนทั้งปีติดลบ น้อยกว่า 1.5% สรท.ไม่ห่วงส่งออกจีนติดลบในรอบ 4 เดือน มั่นใจไตรมาส 1 ฟื้นตัว
- "แบงก์ออมสิน" เล็งตัดขายหนี้เสียกว่า 7 หมื่นล้าน เข้า "เอเอ็มซี" พร้อมจ้างที่ปรึกษาประเมินราคา เผยแผนร่วมทุนอยู่ระหว่างขออนุญาต "แบงก์ชาติ" คาดอนุมัติได้ช่วงต้นปีหน้า เริ่มดำเนินการได้เดือน มี.ค.67 หวังช่วยลูกค้ากลับมาชำระคืนเงินได้
- วันนี้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) จะประชุมสรุปผลการลงทุนปี 66 และแผนส่งเสริมการลงทุนปี 67 โดยตัวเลขขอส่งเสริมการลงทุนตลอดทั้งปี 66 คาดว่าจะทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6 แสนล้านบาทแน่นอน
*หุ้นเด่นวันนี้
- AOT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย 80 บาท รับ Sentiment บวกเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี และอานิสงส์มาตรการฟรีวีซ่า ตัวเลขสถิติการบินในเดือน ต.ค.-กลางเดือน ธ.ค.ยังขยายตัวได้ดี ทำให้แนวโน้มไตรมาส 1 ปี 66/67 (ต.ค.-ธ.ค.66) จะเห็นกำไรโต QoQ. YoY ต่อเนื่อง ส่วนปี 66/67 คาดกำไรสุทธิ 2.33 หมื่นล้านบาท + 166%YOY มีปัจจัยหนุนจากท่องเที่ยวทยอยฟื้นภายใต้สมมติฐานจำนวนผู้โดยสาร 120-130 ล้านคน แต่ยังมองเป็นแค่เก็งกำไรหลังจากราคาหุ้นลงมามากเท่านั้น เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากนักท่องเที่ยวหลักชาวจีนยังฟื้นช้ากว่าคาด
- AP (กสิกรไทย) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาพื้นฐาน 14.60 บาท บนประเด็นคลังชง ครม.วันนี้ต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนองอีก 1 ปี พร้อมลุ้น ธปท.ผ่อนปรน LTV ขยายเพดานสิทธิซื้อบ้านถึงราคา 5 ล้านบาท ขณะที่คาดกำไรไตรมาส 4/66 แข็งแกร่งในเชิง YOY หนุนจากกำหนดการโอนกรรมสิทธิ์ยอด backlog แนวราบจำนวนมาก แม้คาดใกล้เคียงไตรมาส 3/66 แต่มองว่ามากพอจะทำให้กำไรสุทธิปี 66 ทำสถิติสูงสุดใหม่ และประเมินอัตราเงินปันผลตอบแทนต่อหุ้นในระดับสูงที่ 6.3% (จ่ายปีละครั้ง)
- GPSC (เมย์แบงก์ฯ) "เก็งกำไร" เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 57.75 บาท ดอกเบี้ยโลกผ่านจุดสูงสุดเป็นผลให้ Bond Yield ปรับลง โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีทำจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือน เป็นบวกต่อ GPSC การขึ้นค่าไฟฟ้าล่าสุดที่คงค่าไฟฟ้าที่ 3.99 บาท/หน่วยสำหรับกลุ่มเปราะบาง ส่วนกลุ่มอื่นปรับขึ้นไม่เกิน 4.22 บาท/หน่วยสร้าง Upside ต่อประมาณการ ทุกๆ 10 สต.ที่เพิ่มจาก 3.99 บาทหนุนกำไรปี 67 ราว 10% เป็นหุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window Dressing จากสถิติ 24-30 ธ.ค. 3 ปีผ่านมาให้ผลตอบแทนเลลี่ย 4.70%