BCP ร่วง 6.32% มาที่ 40.75 บาท ลดลง 2.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 313.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. จากราคาเปิด 43.00 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 43.00 บาท ราคาต่ำสุด 40.50 บาท
บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า OKEA ASA (OKEA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ BCP ถือหุ้น 45.94% ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ในทะเลนอร์เวย์ในสัดส่วน 28% และได้ดำเนินการโอนสิทธิ์แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.66 ทำให้ปริมาณการผลิตปิโตรเลียมของ OKEA เพิ่มขึ้นจาก 20,000-25,000 มาเป็นใกล้เคียง 40,000 บาร์เรล/วันในปี 67 และปริมาณปิโตรเลียมสำรอง (2P) เพิ่มขึ้นจาก 60 เป็นกว่า 90 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้รับแจ้งข้อมูลจาก OKEA ว่าปริมาณปิโตรเลียมสำรอง Statfjord จะมีปริมาณน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 10-15% เนื่องจากความสม่ำเสมอในการผลิต (Production Regularity) และประสิทธิภาพของหลุม (Well Performance) โดยจะกระทบต่อปริมาณการผลิตในระยะอันใกล้ OKEA คาดการณ์ว่าจะเกิดการด้อยค่าจากการลงทุนเมื่อคำนวณตามสัดส่วนการถือหุ้นคิดเป็นประมาณ 500-727 ล้านโครนนอร์เวย์ หรือคิดเป็นเงินบาทที่ 1,685-2,450 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรับรู้ในงบการเงินรวมของบริษัทในไตรมาส 4/66
ทั้งนี้ OKEA มุ่งมั่นที่จะพัฒนาแหล่งปิโตรเลียม Statfjord ให้เติบโตอย่างเต็มศักยภาพและพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มบางจากฯ เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนให้บริษัทต่อไป
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า จากผลของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในไตรมาส 4/66 และค่าการกลั่นที่ลดลง รวมทั้งการตั้งสำรองในครั้งนี้ ทำให้เราคาดว่า BCP จะประกาศผลขาดทุนสุทธิประมาณ 4,000 ล้านบาท และทำให้กำไรสุทธิในปี 66 เหลือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ( 9M23 กำไร 1.4 หมื่นล้านบาท) ต่ำกว่าที่เราประเมินเบื้องต้นจะมีกำไร 1.5 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่า กำไรของ BCP จะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกธุรกิจ เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 52 บาท