นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาสแรกของปีมังกร ดัชนี SET มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideways ออกด้านข้าง จากระดับดัชนีกรณีฐานที่ 1,410 จุด อิง Forward PE ที่ 12.5 เท่า ขณะที่สภาพคล่องภายในยังไม่น่าจะไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยมากนัก หลังจากเงินส่วนใหญ่ยังคงกองอยู่ในบัญชีเงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ (FCD) แต่ก็ยังไม่มีท่าทีจะไหลออก หลังคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่น่าจะปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 3 เดือนแรกของปี ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯกับไทยยังคงยืนกว้างอยู่เหมือนเดิม
"หุ้นไทยและหุ้นโลกในช่วงไตรมาสจะถูกรบกวนจากสิ่งรบกวนรอบข้าง (Noise) ในระดับต่ำ คล้ายๆ กับช่วงครึ่งหลังของไตรมาส 4/66 แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดหุ้นทุกแห่งจะปรับตัว Sideways เหมือนกันทั้งหมด จะขึ้นอยู่กับ Performance ของตลาดหุ้นแต่ละแห่งจะแตกต่างกันไปบ้าง ตามแนวโน้มพื้นฐานกำไรของแต่ละประเทศเป็นสำคัญ" นายณัฐชาต กล่าว
กลยุทธ์การลงทุนไตรมาส 1/67 หุ้นกลุ่ม SETESG และ SETHD น่าจะเป็นกลุ่มที่เม็ดเงินไหลเข้า โดยจากการศึกษาในอดีตพบรายชื่อหุ้นในทั้ง 2 ดัชนีที่มีความเชื่อมั่นทางสถิติสูงเกินกว่า 70% ขึ้นไปว่าจะส่งมอบผลตอบแทนที่เป็นบวกได้ในช่วง 4 เดือนแรกของปี รายชื่อหุ้นที่ผ่านเกณฑ์มีอยู่ 7 บริษัท ได้แก่ ADVANC, AP, BCH, INTUCH, PTT, SIRI, TISCO จึงแนะนำเป็น Best picks ประจำไตรมาสที่ 1 และแนะนำให้นักลงทุนจัดสรรการลงทุนกระจายไปยังหุ้นทั้ง 7 ตัว
ในส่วนของประเทศไทยที่ถูกปรับลดประมาณการลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้เป็นตลาดหุ้นหนึ่งที่แย่สุดของโลก หากช่วงต้นปีนี้เศรษฐกิจมีแรงส่งจากมาตรการกระตุ้นการบริโภค (Easy E-Receipt) การต่ออายุมาตรการลดค่าครองชีพ รวมถึงการอนุมัติงบประมาณฉบับใหม่ คาดว่าจะเริ่มเห็นแนวโน้มการปรับประมาณการกำไรขึ้นของกลุ่มที่อิงกับภาคอุปสงค์ภายในประเทศได้ เมื่อมาประกอบกับแนวโน้มกำไรของกลุ่ม Global cyclical อย่างพลังงานและปิโตรเคมีที่น่าจะทรงตัวได้จากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่น่าจะมีความเสี่ยงหดตัวแรง ทำให้พอเชื่อได้ว่าแนวโน้มกำไรตลาดหุ้นไทยในไตรมาสแรกน่าจะเห็นการทยอยปรับเพิ่มประมาณการขึ้นจากช่วงไตรมาส 4/66 ได้บ้าง
ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 2/67 การเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ต่างๆ จะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลกถดถอยและท่าทีของเฟดเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยว่าจะช้าหรือเร็วขนาดไหน หากเฟดลดดอกเบี้ยเร็วก่อนที่เศรษฐกิจโลกจะมีสัญญาณเสี่ยงถดถอย มีโอกาสที่ SET Index จะปรับตัวขึ้นทดสอบกรณีดีสุดที่ระดับ 1,515 จุด อิง Forward PE ที่ 13.4 เท่า