HILITE: โบรกส่องหุ้นโรงไฟฟ้าชู CKP,GULF,GUNKUL ปัจจัยเฉพาะตัวโดดเด่นแม้โอกาสขึ้น Ft มีน้อย

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 3, 2024 17:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ส่องหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภค แนะนำเน้นหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว เนื่องจากมองว่าการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติอาจไม่ได้ส่งผลบวกเต็มที่นัก เนื่องจากต้นทุนก๊าซยังอยู่ระดับสูง และโอกาสการปรับขึ้นค่า Ft เป็นไปได้น้อย แต่ก็ยังมีประเด็นบวกจากการเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอบใหม่ตามแผน PDP ฉบับใหม่ และอัตราดอกเบี้ยมทีทิศทางลดลง

อย่างไรก็ตาม ต่างชาติยังคงขายหุ้นโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะ BGRIM และ GPSC

ส่วนหุ้นที่ประเด็นบวกเฉพาะตัว หุ้นเด่น : CKP, GULF, และ GUNKUL

ประเด็นการลงทุน การปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติอาจไม่ได้ส่งผลบวกเต็มที่นัก แม้ว่าจะมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ โดยนำก๊าซฯ ทั้งหมดมารวมคำนวณใน Pool Gas ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง แต่เรามองว่าอาจไม่ได้ส่งผลบวกเต็มที่นักต่อ SPP จากทั้งด้านต้นทุนและราคาขายไฟฟ้า ในด้านต้นทุน กกพ.ประมาณการ Pool Gas เฉลี่ยทั้งปีนี้อยู่ที่ 387 บาท./MMBTU แทบไม่แตกต่างจากปีที่แล้ว จากราคาเฉลี่ยของแหล่งอ่าวไทยและเมียนมาเพิ่มขึ้น สัดส่วนการนำเข้า LNG ยังสูง จากการผลิตของแหล่งอื่นๆ ในอ่าวไทยและเมียนมาลดลง ทำให้ต้องนำเข้า LNG ทดแทน แม้ว่าการผลิตจากแหล่งเอราวัณจะเพิ่มขึ้นก็ตาม นอกจากนั้น หากแนวโน้ม Pool Gas ที่เกิดขึ้นจริงในปีนี้ต่ำกว่าประมาณการ กกพ. ก็ต้องคงระดับ Pool Gas ให้สูงไว้ เพื่อจ่ายชำระคืน PTT จากการที่ ครม. มีมติควบคุม Pool Gas ในช่วง ก.ย.-ธ.ค. 66 ที่ 305 บ./MMBTU ซึ่งต่ำกว่า Pool Gas ที่เกิดขึ้นจริง

โอกาสการปรับขึ้นค่า Ft เป็นไปได้น้อย การประชุม ครม.วานนี้ยังไม่ได้พิจารณาค่า Ft งวด ม.ค.-เม.ย. 67 โดยเรามองว่าแม้ว่า กฟผ. จะมีภาระค่า Ft ค้างรับสูงถึง 1 แสนล้านบาทก็ตาม แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า กฟผ.ได้ปรับปรุงงบการเงิน โดยเปลี่ยนแปลงยอด Ft ค้างรับเป็นส่วนที่คาดว่าจะได้รับชำระเกิน 1 ปีเกือบทั้งหมด (เดิม 6.8 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนที่ได้รับชำระภายใน 1 ปี) สะท้อนมุมมองของ กฟผ.ว่าจะไม่มีการปรับขึ้นค่า Ft ใน 1 ปีข้างหน้าเพื่อจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างที่เกิดขึ้นจากการตรึงค่าไฟฟ้าในอดีต

ประเด็นบวกของหุ้นโรงไฟฟ้าในปีนี้มอง 3 ประเด็น

1) คาดมีการลงนาม PPA ของ Wind 1,490 MW หลังคดีที่ศาลปกครองกลางสิ้นสุด ซึ่ง GULF ได้รับคัดเลือกมากที่สุด 414 MW รองลงมาคือ GUNKUL 180 MW หลังจากนั้น คาดมีการคัดเลือก Renewable เฟส 2 อีก 3,668.5 MW

2) คาดมีความคืบหน้าของแผนพลังงานชาติ 2024 โดยกรอบของแผนฯ จะมุ่งไปสู่พลังงานสะอาด โดยแผนพัฒนากำลัง ผลิตไฟฟ้า (PDP 2024) จะเป็นส่วนสำคัญของแผนนี้

และ 3) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยลดลง นอกจากจะเป็น Sentiment เชิงบวกแล้ว ยังส่งผลดีต่อค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้ลดลง หลังจากเพิ่มขึ้นมามากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

สำหรับ Fund Flow ของต่างชาติในไตรมาส 4/66 ยังคงขายหุ้นโรงไฟฟ้าต่อเนื่องจากไตรมาส 3/66 โดย BGRIM เป็นหุ้นที่ถูกต่างชาติขายมากที่สุดต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน NVDR ก็ขายหุ้น BGRIM สูงสุด -620 ลบ. รองลงมาคือ GPSC ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/66 NVDR ซื้อสุทธิหุ้น 3 ตัวคือ EA, GULF, และ RATCH โดยทั้ง 3 ตัวเป็นหุ้นที่ถูกขายมากที่สุดในไตรมาส 3/66

Valuations อยู่ที่ระดับใด? ราคาหุ้นโรงไฟฟ้าในปี 66 ลดลงในช่วง -12% ถึง -54% ซึ่งลดลงมากกว่า SET ทำให้ค่าเฉลี่ย P/B ลดลงมาที่ 1.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 3.4x มาก โดยหุ้นที่มี Discount จากค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ EA, BCPG, และ GUNKUL อย่างไรก็ตาม ระดับ P/B นี้ไม่ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับ ROE ซึ่งอยู่เพียง 8%

สำหรับหุ้นเด่น : CKP, GULF, และ GUNKUL ด้วยเรามองว่าโอกาสการปรับขึ้นค่า Ft เป็นไปได้น้อย ทำให้จะไม่ส่งผลบวกต่อหุ้นโรงไฟฟ้าโดยเฉพาะ SPP มากนัก เราจึงเลือกหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว และทุกตัวซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตมาก ได้แก่

CKP (TP 4.35) คาดกำไรปีนี้เติบโตเด่นจากฐานต่ำในปีที่แล้ว ตามปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น และมีโครงการหลวงพระบางหนุนการเติบโตระยะยาว

GULF (TP 58.00) สัดส่วนกำไรมาจาก IPP เป็นหลัก และคาดความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของธุรกิจดิจิทัลเกิดขึ้นในปีนี้

GUNKUL (TP 4.20) ราคาหุ้นลดลงมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในปีที่แล้ว และมีประเด็นบวกจากการได้รับคัดเลือก Renewable จำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ