นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการ สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ธ.ค.66 ส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากเม็ดเงินกองทุน ThaiESG น่าจะมีผลมาก โดยช่วงที่เปิดขาย 15 วันแรกมีเม็ดเงินไหลเข้ามาราว 3,200 ล้านบาท และคาดว่าจนถึงสิ้นปี 66 มีเม็ดเงินเข้ามารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท ใกล้เคียงเป้าหมาย 5,000-10,000 พันล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าปี 67 มีโอกาสที่เม็ดเงินจากกองทุน ThaiESG จะระดมเข้ามาได้ถึง 10,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย
นอจากนั้น ปัจจัยที่หนุนตลาดหุ้นไทย คือ นักลงทุนคาดหวังว่าปี 67 เศรษฐกิจในประเทศจะดีขึ้น รวมทั้งเหตุการณ์หรือโครงการต่าง ๆ ที่ติดขัดในช่วงตั้งรัฐบาลจะฟื้นกลับมา และยังมีแรงอัดฉีดงบประมาณทั้งปี 67 ที่มีความล่าช้าไปบ้าง และงบประมาณปี 68 น่าจะใช้จ่ายได้ตามกำหนดปติ ขณะที่ความเสี่ยงด้านการเมืองในประเทศมองว่าสถานการณ์ดูแข็งแรงกว่าในอดีตมากหลังจัดตั้งรัฐบาลและรัฐบาลมีความแกร่งในเชิงตัวเลขเสียงสนับสนุน
ส่วนทิศทาง Fund Flows หลังจากปี 66 ไหลออกไปค่อนข้างมากแล้ว และช่วงปลายปียังมีกองทุน Thai ESG ทำให้มีเงินไหลกลับเข้ามาบ้าง รวมทั้งเม็ดเงินจากผู้ลงทุนในประเทศที่คาดว่าจะกลับมาให้ความสนใจตลาดหุ้นมากขึ้น จากความหวังว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารงานสู่เป้าหมายได้สำเร็จ หลังจากการเดินหน้าอย่างหนักที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ หวังว่าจากนี้ไปทิศทางการค้าและการลงทุนในประเทศอาจจะเริ่มเห็นได้ชัด ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นตัวแปรให้การลงทุนในไทยปรับตัวดีขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าในช่วงไตรมาส 1 เป็นช่วงปกติที่นักลงทุนจะกลับเข้าสู่ตลาดหุ้น มูลค่าการซื้อขายกลับมาคึกคักขึ้น รวมทั้งช่วงนี้เป็นช่วงรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและจ่ายเงินปันผล และจากสถิติในอดีตเดือนม.ค.-เม.ย. เป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยมักจะ Outperform โดยเฉพาะหุ้นปันผลที่จะ Outperform กว่าตลาด อาทิ กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มสื่อสารที่น่าจะจ่ายเงินปันผลค่อนข้างดี
ขณะที่แนวโน้ม Fund Flows ในปี 67 เป็นประเด็นที่คาดการณ์ได้ยากเนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามากระทบ แต่หากดูจากบริบทต่าง ๆ คาดว่าช่วงครึ่งปีหลังน่าจะคาดหวัง Fund Flows ได้มากกว่า เนื่องจากงบประมาณในช่วงปี 67 ล่าช้าทำให้ขาดแรงส่งด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ระยะเวลาของรัฐสภาที่จะพิจารณางบประมาณปี 67 จะเริ่มบังคับใช้เดือนพ.ค. 67 ทำให้เริ่มมีโมเมนตัมเชิงบวกกับเศรษฐกิจมากขึ้น โดยโครงการลงทุนต่าง ๆ จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเมื่อเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ต่างชาติก็น่าจะกลับเข้ามาในช่วงเวลานั้น