นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลิตภัณฑ์ตราเพชร (DRT) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 67 ประเมินว่าจะขยายตัว 5-6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีปัจจัยมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภคของประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น การต่ออายุมาตรการลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์เหลือ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% ออกไปอีก 1 ปี การอัดฉีดเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อจากโครงการ Easy e-Receipts และโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยสร้างบรรยากาศการซื้อสินค้าของผู้บริโภคให้มีความคึกคักมากขึ้น ประกอบกับการคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่หลายฝ่ายมองว่าจะทยอยปรับตัวลดลง จะช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
DRT จะชูศักยภาพด้านการดำเนินธุรกิจที่มีข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านแบรนด์สินค้า "ตราเพชร" ที่ได้รับการยอมรับจากลูกค้า เพื่อขับเคลื่อนกลยุทธ์ "สวยครบเซต ตราเพชรทั้งหลัง" ที่มุ่งเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลังเพื่อตอบสนองความต้องการผ่านช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม กลุ่มลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น และกลุ่มห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ลงทุนขยายสาขามากกว่า 20 แห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ บริษัทจะมุ่งบริหารจัดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเพื่อสนับสนุนด้านการทำตลาดในการนำเสนอสินค้าคู่กับบริการที่ดียิ่งขึ้น ภายหลังโครงการเพิ่มกำลังการผลิตโครงทรัสต์ และโครงการติดตั้งเครื่องจักรกระเบื้องหลังคาคอนกรีตที่จะเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2/67
"ในปีนี้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของตลาดวัสดุก่อสร้างที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดีขึ้น และด้วยศักยภาพการแข่งขันของ DRT ที่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับแผนบริหารจัดการด้านการรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรที่ดี จึงตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 5% และตอกย้ำ DRT เป็นหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและจ่ายปันผลเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง" นายสาธิต กล่าว