นายณพน เจนธรรมนุกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สัมมากร (SAMCO) กล่าวว่า บริษัทยังมุ่งมั่นพัฒนาโครงการบ้านคุณภาพอย่างต่อเนื่องและมั่นใจในศักยภาพของกลุ่มลูกค้าที่ได้วางไว้ โดยตั้งเป้าการเติบโตในปี 67 เพิ่มขึ้น 20% หรือคิดเป็นยอดขาย 3.6 พันล้านบาท จากโครงการบ้านใหม่ๆ กำลังจะเปิดตัว 4 โครงการ ได้แก่ อนาพนา จตุโชติ, มิตติ ราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศร์, Providence Lane เกษตร-นวมินทร์ และลาซาล และจากโครงการที่กำลังพัฒนา ได้แก่ อนาพนา นอร์ธราชพฤกษ์ รวมทั้งโครงการทำเลลาดพร้าว 91 และทำเลเอกมัย - รามอินทรา ตลอดจนการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตรงเป้า และดีมานด์ของลูกค้าเป้าหมายของแบรนด์
โครงการในปีนี้จะมุ่งทำตลาดอย่างเข้มข้นในกลุ่มลูกค้าบ้านอัพสเกล คือ ผู้ซื้อบ้านหลังแรก และผู้ที่ซื้อบ้านเพื่อขยายครอบครัวเป็นหลัก ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด เช่น โครงการมิตติ และอนาพนา ราคา 5-15 ล้านบาทโซนชานเมืองและปริมณฑล พร้อมกับเน้นเซกเมนต์ตลาดลูกค้าบ้านลักชัวรี ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากผลตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากการเปิดโครงการบ้านลักชัวรี 2 โครงการในปีที่ผ่านมา
ภายใต้กลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่ทั้งภายนอกองค์กรและภายในองค์กร โดยกลยุทธ์ภายนอกองค์กร (External Strategy) ได้แก่ Data driven and Creative จะเข้ามาเป็นแกนกลางและหัวใจหลักของการดำเนินการในทุกกิจกรรมของบริษัท ข้อมูลต่างๆ ทั้งข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเชิงลึกจะถูกนำมาประมวลผลมากขึ้น จนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับทุกๆ ฟังก์ชันการทำงานรวมถึงทางการตลาดที่จะเกิดขึ้น โดยเน้นสอดแทรกความครีเอทีฟไปในทุกงานของสัมมากรเพื่อสร้างความแตกต่าง สร้างการจดจำดีเอ็นเอของแบรนด์ที่สื่อสารด้วยการสะท้อนความจริงที่ตรงไปตรงมา และน่าเชื่อถือ เช่น ภาพยนตร์โฆษณาชื่อ The UnStereotype Family By Sammakorn ที่ชวนทุกคนมาเปิดมุมมองอีกด้านของคำว่า "ครอบครัวที่สมบูรณ์" ที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยรู้, ภาพยนตร์โฆษณา ชื่อ The Broken Home ที่สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในบ้านของคุณเอง ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนอาจลืม
และล่าสุดกับ Home Fill-in Interactive Exhibition นิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟรูปแบบใหม่ที่พาทุกคนไปสำรวจ ความต้องการของตัวเองและคนในครอบครัว ระหว่างวันที่ 12-16 ม.ค. นี้ ระหว่างเวลา 10.00-22.00 น. สยามเซ็นเตอร์
กิจกรรมทางการตลาดใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นดีมานด์ของกลุ่มลูกค้า ทั้ง Affiliate program โปรแกรมที่ให้ค่าแนะนำบอกต่อ, Testimonial การสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับลูกบ้านสัมมากรในโครงการต่างๆ และ Campaign ใหม่ๆ เพื่อสื่อสารคำตอบของทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า เช่น Partnerships Campaign แคมเปญความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ผ่านความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ 3) Environmental Sustainability Project และ CSR Campaign แคมเปญใหญ่ เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนและโครงการเพื่อสังคมที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่ง External Strategy ทั้งหมดจะถูกนำเสนอผ่านกิจกรรมทางการตลาด เช่น กิจกรรมการขาย การออกอีเว้นท์ แคมเปญพิเศษและโปรโมชั่นต่างๆ ควบคู่กับการสร้าง Brand Loyalty ด้วยการสร้างคอมมูนิตี้ ให้เกิดขึ้นในแต่ละโครงการบ้าน เพื่อสร้างสานสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ จนเกิดเป็น Brand Love ในที่สุด
ส่วนกลยุทธ์ภายในองค์กร (Internal Strategy) คือ การสวัสดิการต่างๆ ที่เหมาะสมให้กับพนักงานสัมมากร ทุกคน เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับพนักงาน ทำให้ครอบครัวของพนักงานทุกคนที่นี่เป็นครอบครัวที่หลับสบาย
"ภาพรวมตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพ และปริมณฑลในปีที่ผ่านมาถือว่ายังไม่ดีเท่าที่ควร โดยหดตัวลงจากปีที่แล้ว 3% ส่วนบ้านเดี่ยวและทาว์นโฮมหดตัวลง 5% โดยมีปัจจัยจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังกลับมาไม่เต็มที่ มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดี และการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบสำคัญที่ทำให้กำลังซื้อลดลง เนื่องจากต้นทุนการกู้บ้านสูงขึ้น นอกจากนี้หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เกิด แรงต้านและกดดันกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าตลาดอสังหาฯ มีแนวโน้มขยายตัวอย่างเล็กน้อยตามการเติบโต ของเศรษฐกิจไทยโดยรวม ต้องรอดูว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะได้ผลมากน้อยเพียงใด"นายณพน กล่าว