SET ปิดเช้าวันนี้ 1,404.26 จุด ลดลง 2.76 จุด (-0.20%) มูลค่าซื้อขายราว 19,856 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้าเหวี่ยงออกด้านข้างอิงทางลง ไร้ปัจจัยชี้นำจากต่างประเทศ โดยแต่ละตลาดต่างรอติดตามผลประกอบการ Q4/66 และทั้งปี 66 ในไทยเริ่มจากกลุ่มแบงก์ ตัวแรกออกมาไม่ได้โดดเด่นและตลาดตอบรับไปแล้ว แนวโน้มช่วงบ่ายคาดซึมตัวต่อ ขณะที่การเลื่อนประชุม Digital Wallet มีผลเชิงลบต่อกลุ่มค้าปลีกเล็กน้อย ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,410 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,404.26 จุด เพิ่มขึ้น 2.76 จุด (-0.20%) มูลค่าซื้อขายราว 19,856.04 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,407.08 จุด และต่ำสุด 1,399.85 จุด
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เหวี่ยงออกด้านข้างอิงทางลง ไม่มีปัจจัยชี้นำจากต่างประเทศหลังตลาดรับรู้ปัจจัยเรื่องธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไปแล้ว ส่งผลให้ตลาดแต่ละประเทศรอติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/66 รวมทั้งของปี 66 ด้วย
โดยในประเทศสัปดาห์นี้เริ่มจากงบกลุ่มแบงก์ ซึ่งตัวแรกๆ ไม่ได้โดดเด่นและตลาดตอบรับไปแล้ว มองว่าผลการดำเนินงานจะปรับลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และเพิ่มขึ้น YoY ขณะที่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ทำนิวไฮไปแล้ว คาดว่าระยะถัดไปจะอ่อนตัวลงได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 67
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดซึมตัวต่อไร้ปัจจัยใหม่ ขณะที่การเลื่อนประชุม Digital Wallet มีผลเชิงลบกับตลาดบ้างโดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกแต่ไม่ได้มาก เนื่องจากตลาดรับรู้ไปแล้วว่าคงไม่สามารถออกมาใช้ได้เร็ว เพราะต้องผ่านขั้นตอนต่าง ๆ คาดว่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 3/67
โดยให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,400 จุดและแนวต้าน 1,410 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
TISCO มูลค่าการซื้อขาย 935.99 ล้านบาท ปิดที่ 99.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 874.75 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 569.97 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 545.90 ล้านบาท ปิดที่ 83.75 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 544.97 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 1.00 บาท