TU ปรับลง 2.05% หรือลดลง 0.30 บาท มาที่ 14.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 316.80 ล้านบาท เมื่อเวลา 9.57 น. จากราคาเปิด 14.40 บาท ราคาต่ำสุด 14.20 บาท ราคาสูงสุด 14.50 บาท
บล.กสิกรไทย ระบุว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน (TU) การตัดสินใจออกจากการลงทุนใน Red Lobster (RL) ที่ขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จะไม่รับรู้ผลการดำเนินงานของ RL อีกต่อไปตั้งแต่ไตรมาส 1/67 ส่งผลให้ประมาณการกำไรปี 2567-68 ของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% และ 8% เป็น 7.5 พันลบ. และ7.9 พันลบ. ตามลำดับ แม้บริษัทจะต้องบันทึกด้อยค่าของมูลค่าการลงทุนทั้งหมดจำนวน 1.85 หมื่นลบ.ในไตรมาส 4/66 เราเชื่อว่าการตัดสินใจนี้จะส่งผลเชิงบวกต่อ TU ในอนาคต อย่างไรก็ตาม อาจส่งผลกระทบในระยะสั้น เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายใหม่ที่ 16.7 บาท ขณะเดียวกัน TU เผยโครงการซื้อหุ้นคืนสูงสุดไม่เกิน 3.6 พันลบ.
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน (TU) ตัดสินใจยุติการลงทุนใน Red Lobster (RL) ยอมตั้งด้อยค่าทางบัญชี 1.8 หมื่นลบ. แม้จะทำให้งบปี 2566 พลิกเป็นขาดทุน แต่เป็นผลดีมากกว่าที่จะหยุดรับรู้ผลขาดทุนของ RL หมดความกังวลที่ต้องใส่เงินเพิ่มใน RL ตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เป็นการยากที่ RL จะฟื้นกลับมาได้เร็ว
แม้ว่าการขาดทุนจากรายการพิเศษทางบัญชีจะกระทบอัตราส่วนทางการเงินที่เป็นเงื่อนไขของหุ้นกู้ แต่เชื่อว่าบริษัทจะขอผ่อนผันและจ่ายปันผลได้ปกติ ในอนาคตหากขาย RL ได้ TU จะกลับรายการด้อยค่าเป็นกำไรได้ ส่วน Operation ฟื้นทั้ง TU และ ITC เราจะปรับเพิ่มกำไรและเป้าปี 2024 เป็น 20 บาทหลังหยุดรับรู้ขาดทุนจาก RL
แนะนำ"ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 18 บาท ขณะเดียวกันให้แนวรับ 14.40 บาท แนวต้าน 15 บาท