นายวัฒน์ชัย มงคลศรีสวัสดิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามเทคนิคคอนกรีต (ชน) หรือ STECH เปิดเผยว่า โรงงานผลิตลวดเหล็ก ที่จังหวัดชลบุรี ได้ฤกษ์ดีเดินเครื่องการผลิตเชิงพานิชย์แล้ว โดยมีขนาดกำลังการผลิตที่ 2,000 ตันต่อเดือน ตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกันกับโรงงานคอนกรีตแห่งที่ 10 คาดว่าสร้างรายได้ที่ประมาณ 50-60 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 600-700 ล้านบาทต่อปี
เครื่องจักรที่ติดตั้งโรงงานผลิตลวดเหล็กมีความทันสมัยที่สุดในขณะนี้ ซึ่งโดยปกติโรงงานผลิตลวดเหล็กโดยทั่วไปจะใช้น้ำกรดที่มีความเข้มข้นสูงในการทำความสะอาดลวด แต่โรงงานผลิตลวดเหล็กของ STECH จะไม่ใช้ระบบน้ำกรด แต่จะใช้วิธีการดัดลวดแล้วใช้กระดาษทรายทำความสะอาด ซึ่งเป็น โรงงานลวดเหล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้ธีม "ลวดรักษ์โลก"
"โรงงานลวดที่กดปุ่มเดินเครื่องเรียบร้อยแล้ว ใช้รองรับสินค้าใหม่ในการพัฒนาโครงการของบริษัท ราว 30% และที่เหลือดำเนินการขายให้กับลูกค้าอีกทางหนึ่ง มองว่า ธุรกิจใหม่จะสนับสนุน STECH เข้าสู่การสร้าง New S-Curve และการบริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เนื่องจากต้นทุนค่าลวดนับเป็นประมาณ 20-30% ของต้นทุนการผลิต และจะกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต สร้างฐานกำไรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น" นายวัฒน์ชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 66 สัญญาณดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 3/66 ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว และได้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งจะทำให้งานโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศออกมามากขึ้น ส่งผลดีกับ STECH ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตอัดแรงที่จำเป็นสำหรับใช้ในงานก่อสร้าง สนับสนุนผลงานทั้งปีเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
ในปี 66 บริษัทเชื่อว่ากำไรเติบโตขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากมีการควบคุมต้นทุนที่ดี มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายโรงงานคอนกรีตแห่งที่ 10 มีกำลังการผลิตที่ประมาณ 30,000-40,000 คิวต่อปี สามารถเพิ่มกำลังการผลิต 20-30% ของกำลังการผลิตรวม โดยมีการรับรู้รายได้จากการขยายงานในส่วนดังกล่าวเต็มปีในปี 66 ที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ทยอยรับรู้รายได้ในปี 67 นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามงานที่ได้ยื่นประมูลไปแล้ว มูลค่ารวมประมาณ 1,400-1,500 ล้านบาท ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาบริษัทฯ มีโอกาสได้รับงานไม่ต่ำกว่า 50% ของการยื่นประมูล