บมจ.แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE) กำหนดราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) 170 ล้านหุ้น ที่ราคา 3.24 บาท รวมมูลค่าการเสนอขาย 550.08 ล้านบาท เปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค.67 โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในวันที่ 31 ม.ค.67 กลุ่มธุรกิจบริการ/พาณิชย์
ADVICE แต่งตั้ง บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ขณะที่ผู้ร่วมจัดการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) รวมทั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บล.กรุงศรี และ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)
การกำหนดราคาเสนอขาย IPO ในครั้งนี้พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นของบริษัทฯ (Price to Earnings หรือ P/E Ratio) โดยราคาหุ้น 3.24 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Trailing 12-month P/E Ratio) เท่ากับ 7.26 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นที่ 0.4465 บาท คำนวณจากกำไรสุทธิช่วง 12 เดือนย้อนหลัง (1 ต.ค.65-30 ก.ย.66) ที่ 200.9 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดก่อนเสนอขาย IPO และ คิดเป็น P/E Ratio เท่ากับ 10.00 เท่า เมื่อเทียบกับกำไรต่อหุ้นที่ 0.3240 บาท หากพิจารณากำไรสุทธิต่อหุ้นที่คำนวณจากจำนวนหุ้นทั้งหมดหลัง IPO ซึ่งเท่ากับ 620,000,000 หุ้น (Post-IPO Dilution หรือ Fully-Diluted)
ADVICE พิจารณานำ P/E ของคู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วง 3 เดือนย้อนหลังมาเปรียบเทียบ ซึ่ง P/E ของกลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าไอที ได้แก่ COM7 มี P/E ที่ 18.63 เท่า ขณะที่ P/E ของกลุ่มผู้ค้าส่งสินค้าไอที คือ SIS SVOA และ SYNEX มี P/E อยู่ในช่วง 12.37-15.13 เท่า ซึ่งราคาเสนอขายหุ้นที่ P/E 10 เท่า คิดเป็นส่วนลดจากค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทเทียบเคียงโดยตรงราว 46.3%
ขณะที่หุ้นสามัญของผู้มีส่วนร่วมในการบริหาร 444,033,333 หุ้น ประกอบด้วย หุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ติด Silent Period จำนวน 341,000,000 หุ้น คิดเป็น 55% ดังนั้น คงเหลือหุ้นของผู้มีส่วนร่วมในการบริหารที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 103,033,333 หุ้น คิดเป็น 16.62% ซึ่งผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายตกลงและยินยอมโดยความสมัครใจที่จะไม่ขายหุ้นที่ตนถืออยู่ทั้งหมดเพิ่มเติมจากเกณฑ์ Silent Period ของตลาดหลักทรัพย์ฯ (Voluntary Share Lockup) ดังนี้
- นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ และนายอมร ทาทอง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ตกลงจะไม่ขายหุ้นส่วนที่ไม่ติด Silent Period จำนวน 67,560,000 หุ้น เป็นเวลา 3 เดือนนับแต่วันแรกที่หุ้นเข้าเทรด
- ผู้ถือหุ้นเดิมอีก 6 ราย ซึ่งได้แก่ นายปรีชา สินอาภา นายปรเมษฐ์ เอกอุ่น นายบัญชา วงศ์หลีกภัย นายกัณม์ ภูธณลักษณ์ นายศรัณย์ ปัญหา และนายเอกชัย ระวีแสงสูรย์ ตกลงจะไม่ขายหุ้นส่วนที่ไม่ติด Silent Period จำนวนรวม 41,440,000 หุ้น เป็นเวลา 1 เดือนนับแต่วันเข้าเทรด
นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVICE กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนราว 527.3 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่าย) เพื่อลงทุนขยายธุรกิจ รวมถึงการขยายสาขาและปรับปรุงสาขาเดิม, ชำระคืนเงินกู้ ใช้เป็นทุนหมุนเวียนจัดซื้อสินค้า และ ปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทมั่นใจว่าหลังจากระดมทุนครั้งนี้ จะสนับสนุนฐานทุนบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เตรียมพร้อมสำหรับขยายไปยังโอกาสใหม่ๆ และสนับสนุนให้ ADVICE ก้าวสู่การเป็นหุ้นบริษัทไอทีอันดับหนึ่งของประเทศ พร้อมวางเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดผ่านการขยายสาขาและร้านค้าแฟรนไชส์ รวมทั้ง ยอดขายผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ
รวมทั้งขยายสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาส 1/67 หากได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ บริษัทฯ จะเปิดร้าน "iStudio by Advice" ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดร้านได้ช่วงปลายปี 67 เพื่อวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple อย่างเต็มรูปแบบ รวมทั้ง การเพิ่มรายได้เสริมผ่านศูนย์บริการและรับซ่อมสินค้าอย่างเป็นทางการ การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นผ่านการปรับประเภทผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย และบริษัทยังมุ่งเน้นไปที่การขยายฐานลูกค้าองค์กร จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 5% ในปี 67 จะเพิ่มขึ้นเป็น 7% ของรายได้รวม
นอกจากนี้ เพิ่มความสามารถในการทำกำไรผ่านการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่จะรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าไอทีแบบครบวงจร ด้วยผลกำไรที่เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับคู่ค้า
นายณัฏฐ์ กล่าวว่า ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ปี 67 ที่ 10% จากปีก่อน และวางเป้าช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเติบโตไม่ต่ำกว่าเฉลี่ยปีละ 10% จากการขยายธุรกิจเข้าสู่การจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Smartphone มากขึ้น เชื่อว่าหากได้เป็นตัวแทน Apple จะทำให้สัดส่วนรายได้จากSmartphone เพิ่มเท่าตวเป็น 10% จากไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 5% ปัจจุบันบริษัทได้จัดจำหน่ายสินค้า Apple ภายในร้าน Advice ประมาณ 64 สาขา และภายในไตรมาส 1/67 จะจัดจำหน่ายได้ครบ 75 สาขา