แหล่งข่าวจากบมจ.มั่นคงเคหะการ (MK) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ยืนยันว่า บริษัทฯ ไม่ได้มีปัญหาด้านสภาพคล่องของธุรกิจ แต่ข้อจำกัดด้านการขยายการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงขึ้น จึงขอแก้ไขเงื่อนไข ข้อกำหนดสิทธิในส่วนของข้อกำหนดด้านการเงิน คือบริษัทจะขอขยายเพดานอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) จาก 2 เท่า เป็น 3 เท่า และขอแก้ไขหนี้สินที่นำไปลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ได้รับเป็นค่าเช่าจะไม่นำมาคำนวณเป็นหนี้สินในงบการเงิน เพราะเป็นธุรกิจให้เช่าที่ลงทุนประเภทคลังสินค้าสร้างรายได้ประจำเข้ามาต่อเนื่อง และธุรกิจที่มีกำไร โดยจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น ในวันที่ 14 ก.พ.67 จากทั้งหมด 6 ชุด
"บริษัทฯ เห็นว่าการลงทุนคลังสินค้า และพื้นที่เช่า มีการใช้เงินลงทุนที่สูง จึงขอเพิ่มเพดาน D/E เพื่อไม่ไห้กระทบต่อการขยายธุรกิจให้เช่าคลังสินค้า"
ปัจจุบันบริษัทฯหันมาโฟกัสธุรกิจคลังสินค้าและพื้นที่ให้เช่าเป็นหลัก ในส่วนธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย บริษัทฯ หยุดพัฒนาแล้วขณะเดียวกันได้ขายสต็อกเก่าออกหมดแล้ว สนามกอล์ฟได้ขายออกไปแล้วเช่นกัน
สำหรับหุ้นกู้ 5 ชุด ที่จะขอแก้ไขข้อกำหนดสิทธิในส่วนของข้อกำหนดด้านการเงิน รวมมูลค่า 3,232.90 ล้านบาท ได้แก่
MK249A มูลค่า 500 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 18 ก.ย.67
MK252A มูลค่า 300 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 10 ก.พ.68
MK253A มูลค่า 1,189.30 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 15 มี.ค.68
MK256A มูลค่า 700 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 16 มิ.ย.68
MK263A มูลค่า 543.60 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 11 มี.ค.69
สำหรับหุ้นกู้ MK243A มูลค่า 636.40 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอน 28 มี.ค.67 จะไม่มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นกู้เพื่อขอแก้ไขแต่อย่างใด และยืนยันจ่ายชำระคืนได้ตามกำหนด
"ปีนี้มีหุ้นกู้ครบกำหนด 2 ชุด มี.ค. กับก.ย. 67 โดยบริษัทมีหุ้นกู้ทั้งหมด 6 ชุด ขอแก้ไขตั้งแต่หุ้นกู้ชุดที่จะครบเดือนก.ย.เป็นต้นไป ยืนยันว่ามีเงินรองรับการจ่ายคืนหุ้นกู้ครบทุกชุด และจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ถือหุ้นกู้ตามปกติ ยืนยันว่าหุ้นกู้เดือนมี.ค.67 ที่จะครบกำหนดชำระคืนคืนจ่ายให้นักลงทุนครบตามกำหนด และยังไม่มีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่"