ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายร่วง 10 จุด หลังมีรายงานกระทรวงการคลังคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 66 จะขยายตัวได้ 1.8% แต่ยังรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ ประกอบกับโบรกเกอร์ต่างประเทศมีการดาวน์เกรดและหั่นประมาณการหุ้นใหญ่ของไทยด้วย
เมื่อเวลา 15.10 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,359.74 จุด ลดลง 10.18 จุด (-0.74%)
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมากกว่าตลาดหุ้นอื่น ขณะที่ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงดีดตัวขึ้นรับข่าวการจัดตั้งกองทุนพยุงหุ้น โดยตลาดบ้านเราตอบรับรายงานกระทรวงการคลังที่ระบุว่าเศรษฐกิจไทยในปี 66 น่าจะขยายตัวได้ 1.8% ต่ำกว่าตลาดคาดไว้ที่ 2.3% ทำให้ตลาดเกิดความกังวล ซึ่งยังต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ดี มองว่าเรื่องนี้อาจเป็นเกมในการออกดิจิทัลวอลเล็ต
ในระหว่างนั้นตลาดฟิวเจอร์สปรับลงนำตลาดหุ้น คาดว่าอาจมีการ Short เพื่อบริหารความเสี่ยง ตลาดฟิวเจอร์สไหลลงมาทำให้ตลาดหุ้นไหลตามไปด้วย โดยหุ้นที่มี Beta สูง เช่น กลุ่ม JMART ก็จะถูกขายก่อน โดยดัชนี SET ปรับตัวลงใกล้แนวรับเดิม ที่ 1,354 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปี 66
นอกจากนี้ หุ้นไทยก่อนหน้านี้เชื่อมโยงกับปัจจัยต่างประเทศที่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. 67 จากเดิมที่คาดไว้ในเดือน มี.ค.67 เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงาน ดังนั้นทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่มีปัจจัยเรื่องปรับลดดอกเบี้ยมาหนุนอีก
ให้แนวรับ 1,354 จุด หากหลุดให้แนวรับถัดไปที่ 1,342 จุด แนวต้านที่ 1,380 จุด
ขณะเดียวกันโบรกเกอร์ต่างประเทศ บล.แม็คควอรี่ ปรับลดเป้าหมายหุ้นขนาดใหญ่ อย่างกรณีของ AOT ถูกลดคำแนะนำเป็น underperform พร้อมลดเป้าหมายราคามาเหลือ 54 บาท ลดลง 25% นอกจากนั้นแบงก์ขนาดใหญ่ทั้ง KBANK BBL KTB ถูกปรับราคาลงเช่นกัน ส่วน TTB ได้รับการปรับราคาขึ้น เช่นเดียวกับ ERW และ MINT