SET ปิดวันนี้ที่ 1,356.54 จุด ลดลง 13.38 จุด (-0.98%) มูลค่าซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจากกระแสข่าวคลังรายงานรัฐบาลว่า GDP ปี 66 โตแค่ 1.8% ต่ำกว่าตลาดที่ 2.3% ทำให้เกิดความกังวลและเทขายหุ้นออกมาก่อน รวมทั้ง Futures ปรับลงด้วย แนวโน้มพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ เกาะติดคลังแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยอย่างเป็นทางการ ให้กรอบแนวรับ 1,342-1,350 จุด เป็นจุดที่น่าจะรีบาวด์ และแนวต้าน 1,380 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,356.54 จุด ลดลง 13.38 จุด (-0.98%) มูลค่าซื้อขาย 48,638.21 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีผันผวนและปรับลงแรงในช่วงบ่าย โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,352.48 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,375.76 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 85 หลักทรัพย์ ลดลง 420 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 148 หลักทรัพย์
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย วันนี้ถูกกดดันจากกรณีที่โฆษกรัฐบาลออกมาเปิดเผยข้อมูลว่ากระทรวงการคลังรายงานตัวเลข GDP ปี 66 ขยายตัว 1.8% จากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้คาดการณ์ครั้งสุดท้ายที่ประมาณ 2.3% ซึ่งต่ำกว่าราว 0.5% ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล แต่เนื่องจากข่าวมาจากโฆษกรัฐบาล จึงต้องระวังเรื่องความสับสนของข้อมูล แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนตัดสินใจเทขายออกมาก่อน รวมทั้ง Futures ปรับลงด้วย
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลงมาที่ 1,354 จุด ซึ่งเป็นแนวรับเดิมที่เคยทำจุดต่ำสุดไว้เมื่อปีที่แล้ว ดังนั้นแนวโน้มวันพรุ่งนี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์ได้ โดยต้องติดตามว่ากระทรวงการคลังจะแถลงภาวะเศรษฐกิจไทยออกมาอย่างไร
ให้กรอบแนวรับ 1,342-1,350 จุด เป็นจุดที่น่าจะรีบาวด์ และแนวต้าน 1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KTB มูลค่าการซื้อขาย 2,932.53 ล้านบาท ปิดที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,830.74 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,469.74 ล้านบาท ปิดที่ 59.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 1,738.65 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท ลดลง 2.20 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,345.19 ล้านบาท ปิดที่ 51.75 บาท ลดลง 0.75 บาท