นางยอดฤดี สันตติกุล กรรมการบริหาร บล.เอเซีย พลัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บมจ. แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท (ADVICE) เปิดเผยว่า ADVICE สามารถปิดการขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 170 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็น 27.42% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และคาดว่าจะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันที่ 31 มกราคม 2567 ในหมวดธุรกิจกลุ่มธุรกิจบริการ/พาณิชย์
หุ้น ADVICE ได้รับความสนใจจากนักลงทุนซื้อหุ้นจำนวนมาก ภายหลังนำเสนอข้อมูล (Roadshow) ให้กับนักลงทุน เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง สอดรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคและภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่นวัตกรรมยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการด้านไอทีแบบครบวงจร ตอกย้ำ ADVICE เป็น 1 ใน 4 ผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ที่มียอดขายสูงสุดของประเทศ อีกทั้ง ราคาไอพีโอ ที่ 3.24 บาท ถือเป็นการกำหนดราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ที่ 10.00 เท่า ซึ่งถือเป็นราคาเสนอขายที่มีส่วนลดจาก P/E เฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ค่อนข้างสูง
นายณัฏฐ์ ณัฐนิธิการัชต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ADVICE กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต และการระดมทุนในครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของ ADVICE ด้วยวิสัยทัศน์ขององค์กร มุ่งมั่นก้าวสู่บริษัทไอทีอันดับหนึ่งของประเทศ ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงไอที และใช้งานอย่างคุ้มค่า
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 3 ปี (63-65) บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 12,541.2 ล้านบาท 14,305.8 ล้านบาท และ 14,388.2 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) เท่ากับ 8.1% ต่อปี มีกำไรสุทธิ 134.0 ล้านบาท 233.8 ล้านบาท 430.2 ล้านบาท และ 205.7 ล้านบาทตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 10,336.5 ล้านบาท ลดลง 922.7 ล้านบาท หรือ 8.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นการลดลงที่ดีกว่าภาพรวมตลาด อันเนื่องมาจากการปรับฐานเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากความต้องการสินค้าไอทีเพิ่มสูงขึ้นเป็นพิเศษในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ 9 เดือนของปี 66 มีกำไรสุทธิ 136.5 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 1.32% ลดลงจากปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 1.43%
ด้านนางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า โอกาสของ ADVICE หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทมีความพร้อมในการยกระดับเป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าไอทีแบบครบวงจร ด้วยผลกำไรที่เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างยั่งยืนร่วมกับคู่ค้า บริษัทฯ จึงตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายสินค้าควบคู่กับอัตราการทำกำไร โดยในช่วง 3 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีหน้าร้าน Advice รวมทั้งสิ้น 420 แห่ง ผ่านการเปิดสาขาของบริษัทเพิ่มอีก 35-40 แห่ง ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยเน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก พร้อมขยายสาขาแฟรนไชส์อีก 30-50 แห่ง สร้างความแข็งแกร่งของรายได้ในอนาคต
ADVICE ประกอบธุรกิจเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ ประกอบธุรกิจจำหน่ายปลีก-ส่ง สินค้าไอทีภายใต้ชื่อร้าน "Advice" ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบไอทีซุปเปอร์สโตร์ จำหน่ายสินค้าไอทีหลากหลาย เช่น คอมพิวเตอร์ประกอบ (D.I.Y) คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค (Notebook) คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป (Desktop) และอุปกรณ์เสริมต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจำหน่ายสินค้ากลุ่มดิจิทัลไลฟ์สไตล์ Internet of Things (IoT) ไปจนถึงสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน นอกจากการจำหน่ายสินค้าไอที บริษัทฯ ยังให้บริการรับเคลมสินค้าที่มีปัญหาให้ผู้ผลิต รวมถึงให้บริการซ่อมบำรุงและตรวจเช็คอุปกรณ์ไอทีแบบครบวงจร
ด้านนักวิเคราะห์ 4 โบรกเกอร์ ให้มูลค่าพื้นฐานของ ADVICE ปี 2567 เฉลี่ยที่ 6.50-7.15 บาทต่อหุ้น จากราคาเสนอขาย IPO ที่ 3.24 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 10.00 เท่า ซึ่ง P/E ของบริษัทเทียบเคียงโดยตรง (กลุ่มผู้ค้าปลีกสินค้าไอที) ซึ่งอยู่ในหมวดธุรกิจเดียวกับบริษัท ได้แก่ COM7 มี P/E Ratio อยู่ที่ 18.63 เท่า ซึ่งราคาเสนอขายหุ้นที่ P/E 10.00 เท่า คิดเป็นส่วนลดจากค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทเทียบเคียงโดยตรงราว 48.3% และคิดเป็นส่วนลดจากค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ราว 52.3%