ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับลงกว่า 10 จุด ตามแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ทั้ง BBL, KBANK, PTTEP, CPALL , AOT ขณะเดียวกันเงินบาทอ่อนค่า ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ยังไหลออกต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 14.55 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,365.98 จุด ลดลง 10.11 จุด (-0.73%)
น.ส.ชุติกาญจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยต้นภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด เป็นไปตาม Sentiment ตลาดหุ้นเอเชียที่กลับมาเป็นลบ หลังหุ้นที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ปรับลงถ้วนหน้า ตอบรับยอดขายEV ชะลอตัว ประกอบกับนักลงทุนยังกังวลวิกฤตทะเลแดงจะส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น และกระทบต่อการส่งออก ล่าสุดสื่อต่างประเทศตีข่าวว่าทางการจีนขอให้อิหร่านหาทางควบคุมพฤติกรรมกลุ่มฮูตี ไม่เช่นนั้นอาจเสี่ยงกระทบความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับจีนที่เป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของอิหร่านในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
ส่วนบ้านเรายังเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ และยังไม่เห็นแรงซื้อกลับมาชัดเจน อีกทั้งวันนี้ตัวเลขนำเข้าออกมาน่าผิดหวัง โดยติดลบไปถึง 3% สะท้อนดีมานด์ในประเทศชะลอ รวมถึงส่งออกก็ออกมาต่ำกว่าคาด สินค้าบางตัว อย่างอิเล็กทรอนิกส์ก็คาดว่าปีนี้จะหดตัวต่อเนื่องด้วย
ขณะที่นักลงทุนยังรอการเปิดเผยตัวเลข PCE สหรัฐในคืนนี้ว่าจะออกมาในทิศทางไหน หากชะลอตัวลง ก็อาจเป็นบวกต่อตลาดฯ แต่หากมากกว่าคาด ก็จะสร้างความกังวลได้
ให้แนวรับไว้ที่ 1,360-1,350 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด