บมจ.ชโย แคปปิตอล (CCAP) ในเครือ บมจ. ชโย กรุ๊ป (CHAYO) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ 69-1) และหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกบหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 125,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมี บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
วัตถุประสงค์การใช้เงินเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อทั้งมีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน, จ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจาก CHAYO โดย ณ เดือน ก.ย.66 บริษัทมีเงินกู้ยืมจาก CHAYO จำนวน 376 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 68.6% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
CCAP ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อให้แก่บุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการ และให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าแก่พนักงานบริษัทเอกชนคู่สัญญา ผลิตภัณฑ์สินเชื่อและบริการของบริษัทฯ มีทั้งหมด 6 ประเภท ดังนี้
1. สินเชื่อมีหลักประกัน ประเภทจดจำนองและขายฝากสินทรัพย์ (Secured Loan) การให้สินเชื่อประเภทจดจำนอง กำหนด LTV ไม่เกิน 50% และการให้สินเชื่อประเภทขายฝาก กำหนด LTV ไม่เกิน 60% โดยสัญญาเงินกู้ยืมมีระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน มีการกำหนดผ่อนชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน และชำระคืนเงินต้นงวดสุดท้าย บริษัทคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ 15%
2. สินเชื่อสวัสดิการพนักงานของบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญากับ CCAP อัตราดอกเบี้ย 15% โดยไม่ต้องมีหลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน เงื่อนไขพนักงานต้องมีอายุการทำงานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปและมีรายได้รวม 10,000 บาท ขึ้นไป โดยให้วงเงินสินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 150,000 บาท และระยะเวลาการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 3 ปี โดยมีการผ่อนชำระคืนแบบรายเดือน
3. สินเชื่อผ่อนชำระสินค้า ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์ และโน้ตบุ๊ก เป็นต้น โดย CCAP จะเป็นผู้ชำระค่าสินค้าทั้งหมดให้แก่ผู้ขาย และทำสัญญาผ่อนชำระกับผู้ซื้อสินค้า กำหนดวงเงินการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 60,000 บาท ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี มีการชำระค่างวดในรูปแบบรายเดือน อัตราดอกเบี้ย (Flat Rate)
4. สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ (P-Loan) ผ่านระบบ Online วงเงินให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท ระยะเวลาการให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 3 ปี มีการชำระค่างวดในรูปแบบรายเดือน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 25%
5. สินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ (Nano Finance) ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการอาชีพอิสระที่ต้องการเงินลงทุนเริ่มต้นในการซื้อธุรกิจแฟรนไซส์ หรือกลุ่มพ่อค้า/แม่ค้าในตลาดขนาดใหญ่ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ไม่ต้องใช้หลักประกัน/ผู้ค้ำประกัน วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100,000 บาท ระยะเวลาให้สินเชื่อสูงสุดไม่เกิน 2 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 30%
6. ให้บริการเบิกเงินเดือนล่วงหน้าแก่พนักงานของบริษัทที่เป็นคู่สัญญา ภายใต้ "ชโย เงินสั่งได้" ให้เบิกล่วงหน้าได้ในวงเงินไม่เกิน 80% ของเงินเดือน คิดค่าธรรมเนียมเป็นรายธุรกรรมตามวงเงินล่วงหน้า
นายณฐพล ทิพชัชวาลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CCAP กล่าวว่า บริษัทมีความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในธุรกิจการให้สินเชื่อ รายได้หลักมาจากธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน มุ่งเน้นกลุ่มผู้กู้ที่ต้องการนำเงินกู้ไปขยายธุรกิจ/เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเน้นลูกค้ากลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ หรือสามารถเข้าถึงได้เพียงบางส่วน ซึ่ง CCAP เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ โดย CCAP บริหารความเสี่ยงโดยพิจารณาความสามารถชำระหนี้ของลูกค้าตามหลักเกณฑ์พิจารณาสินเชื่อและปล่อยสินเชื่อที่ LTV ไม่เกิน 50%-60% โดยมุ่งเน้นการพิจารณารับหลักประกันประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในจุดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เขตเศรษฐกิจพิเศษ และจังหวัดหลักของประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทมีทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 375 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 375,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.0 บาท
โครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 ม.ค.67 ผู้ถือหุ้นหลักประกอบด้วย CHAYO ถือหุ้น 71.3% หลัง IPO จะลดเหลือ 53.4% นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ 10% จะลดเหลือ 7.5% นายธนโชติ บุญมีโชติ 5% ลดเหลือ 3.8% นายบุญปวีณ บุญมีโชติ 5% ลดเหลือ 3.8% นายวิวัฒน์ กรมดิษฐ์ 2% ลดเหลือ 1.5% นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ CHAYO ถือ 2% ลดเหลือ 1.5% นายเธียรพันธุ์ บุญทรงษีกุล 2% ลดเหลือ 1.5%
ผลประกอบการปี 64-65 บริษัทมีรายได้รวม 13.7 ล้านบาท และ 77.6 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 5.62 ล้านบาท และ 39 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 66 มีรายได้รวม 77 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 53.8 ล้านบาท กำไรสุทธิ 27.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 27.2 ล้านบาท
นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า CCAP เป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม CHAYO ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง กลุ่มผู้บริหารมีประสบการณ์ มีความเข้าใจในธุรกิจการให้สินเชื่อเป็นอย่างดี ตลอดจนมีการบริหารจัดการที่ดี สะท้อนจากผลการดำเนินงานของ CCAP ที่มีการเติบโตในระดับที่น่าสนใจ จึงมั่นใจว่า การระดมทุนครั้งนี้จะสนับสนุนให้ CCAP สามารถสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต
ผลการดำเนินงานในปี 64-65 และงวด 9 เดือนแรกของปี 66 เติบโตตามลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสินเชื่อที่มีหลักประกันซึ่งมีทั้งลูกค้ารายเดิมที่ขอกู้เพิ่ม และลูกค้ารายใหม่ ๆ รวมถึงการเติบโตของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมจากผลิตภัณฑ์ใหม่ อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมากกว่าการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอัตราการเติบโตของต้นทุนค่าบริการและค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 66 ลดลง สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัว IPO และการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงานที่โอนย้ายมาจาก CHAYO รวมถึงการเพิ่มขึ้นของการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากลูกหนี้สินเชื่อไม่มีหลักประกัน
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของงบการเงินกิจการและภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย