นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ อิงแดนบวก จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลดลง นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางสำคัญ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้
ขณะที่ค่าเงินบาทวันนี้ค่อนข้างที่จะแข็งค่าขึ้นมาต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ล่าสุดอยู่ที่ 35.30 บาท น่าจะทำให้แรงขายจากต่างชาติชะลอลง หรือพลิกกลับมาเป็นบวกได้
ในสัปดาห์นี้นักลงทุนรอติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 30-31 ม.ค. และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) วันที่ 1 ก.พ. และวันเดียวกันจะมีการประชุมย่อยของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ด้วย นอกจากนี้ในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) จะมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีพรรคก้าวไกลแก้ไขมาตรา 112 ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ แต่จะทราบผลช่วงบ่าย
โดยช่วงนี้แนะนำลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งน่าจะได้ประโยชน์จากการให้ฟรีวีซ่าจีนถาวร อาทิ AAV ERW MINT CENTEL และ AWC
พร้อมทั้งให้แนวรับ 1,365 จุดและแนวต้าน 1,380-1,382 จุด และแนวต้านถัดไป 1,390 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,333.45 จุด เพิ่มขึ้น 224.02 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,927.93 จุด เพิ่มขึ้น 36.96 จุด หรือ +0.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,628.04 จุด เพิ่มขึ้น 172.68 จุด หรือ +1.12%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,896.66 จุด ลดลง 180.58 จุด หรือ -1.12% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,866.28 จุด ลดลง 17.08 จุด หรือ -0.59% ขณะที่ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,196.64 จุด เพิ่มขึ้น 169.7 จุด หรือ +0.47%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ม.ค.) ที่ 1,376.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.13 จุด (+0.59%) มูลค่าซื้อขาย 39,308.57 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 150.43 ล้านบาท (29 ม.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(29 ม.ค.) ลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 76.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ม.ค.) อยู่ที่ 9.62 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.38 พลิกแข็งค่า ก่อนรู้ผลประชุมเฟด-รอข้อมูลเศรษฐกิจตปท.
- "คลัง" ยื่นหนังสือเลื่อน "ดิจิทัลวอลเล็ต" ไม่มีกำหนด ลั่นรัฐบาลมีอำนาจตามกฎหมายรัฐธรรมนูญในการบริหารราชการ หาก ครม. มีความเห็นว่า "เศรษฐกิจวิกฤติ" ก็พร้อมเดินหน้า เตรียมประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตฯ ชุดใหญ่ หลังรับฟังความเห็น ป.ป.ช. ย้ำชัดไม่มีแผนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลมีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อเดินหน้านโยบายโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) ซึ่งไม่ว่าความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะมีความเห็นว่าอย่างไรก็พร้อมเดินหน้าต่อ
- ไทยขาดดุลการค้าปี 2566 แตะ 3.66 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงเป็นประวัติการณ์ ชี้นำเข้ากลุ่มสินค้าสำเร็จรูปเพิ่มมากขึ้น ทั้งรถยนต์โดยสาร รถบรรทุก ผลิตภัณฑ์พลาสติก สรท.ชี้ผู้ประกอบการไทยต้องบริหารต้นทุนแข่ง สู้ด้วยคุณภาพ แนะหน่วยงานรัฐคุมมาตรฐาน มอก. ด้าน 'กูรูอีคอมเมิร์ซ' เปิดเส้นทางสินค้าจีน เข้าไทย ทำไม 'ค่าส่งสินค้าราคาถูก' กว่า สั่งซื้อจากผู้ค้าไทย
- อีอีซีเผยกรณีที่บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ในเครือซีพี ซึ่งได้รับสัมปทานลงทุนและเดินรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) แต่ไม่ได้รับการต่ออายุบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) หลังจากหมดอายุวันที่ 22 ม.ค.67 ว่า เอกชนสามารถยื่นอุทธรณ์ขยายเวลาต่อบีโอไอได้ ส่วนการแก้สัญญาโครงการอยู่ระหว่างการหารือกับเอกชน และไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของบอร์ดอีอีซีเมื่อวันที่ 29 ม.ค.67
- กลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ได้คาดการณ์การผลิตรถยนต์รวมในปีนี้ อยู่ที่ 1,900,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ผลิตอยู่ที่ 1,841,663 คัน หรือเพิ่มขึ้น 3.17% แยกเป็นผลิตเพื่อการส่งออก 1,150,000 คัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มียอดผลิตเพื่อส่งออก 1,156,035 คัน หรือลดลง 0.52% การผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน เทียบกับปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 685,628 คัน เพิ่มขึ้น 9.39%
- วอลุ่มตลาดหุ้นปี 66 ร่วงหนักในรอบ 5 ปี เฉลี่ย 51,082.42 ล้านบาท ต่ำกว่าวิกฤติโควิดที่ 53,192 ล้านบาท ฉุดธุรกิจโบรกเกอร์อ่วม นายกสมาคมบล.รับกระทบหนักรายได้โบรกเกอร์เรตวูบ โดยลดลงจากฐานรายย่อย หากมีลูกค้ากลุ่มนี้สัดส่วนสูงกระทบหนักสุด สวนทางต่างชาติ-กองทุนยังเอาตัวรอด ได้ บล.เมย์แบงก์ รายงานกำไรปี 66 ลดลง 40% อยู่ที่ 364.91 ล้านบาท จากรายได้โบรกเกอร์เรตลดลง 28.29% ตามวอลุ่มตลาด
*หุ้นเด่นวันนี้
- AAV (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 2.60 บาท นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานปกติจะพลิกเป็นบวกตั้งแต่ไตรมาส 4/66 และจะเป็นบวกต่อเนื่องมาถึงปีนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ AAV จะเป็นสายการบินที่ได้ประโยชน์จากข้อตกลงฟรีวีซ่าถาวรไทยจีน (Pre Covid AAV มีสัดส่วนรายได้จากจีนคิดเป็น 30-40% ของรายได้รวม)
- MINT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 39.00 บาท กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 66 อยู่ที่ 4,423 ลบ.,+86%YoY ฟื้นตัวได้ดีตามรายได้รวมที่+27%YoY หลังการท่องเที่ยวและการบริโภคเริ่มกลับสู่ปกติ PostCovid-19 หนุนธุรกิจโรงแรม และธุรกิจร้านอาหาร ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานช่วง 4Q66 BB Conensus คาดที่ 2,370 ลบ.พลิกกำไรจากขาดทุนในไตรมาส 4/65, +11%QoQ ยังมีการฟื้นตัวที่ต่อเนื่องจากโรงแรมในโซนเอเชียเข้าสู่High Season ด้านปี 67 นี้ ต้นปียังมีสัญญานที่ดีจาก ปริมาณการจองห้องพักของโรงแรมในปไทยช่วงม.ค.-ก.พ. 67 ที่+20-30%YoY ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี66 และ ปี67 ของ MINT ที่ 6,662 ลบ. (+55%YoY) และ 7,881 ลบ.(+18%YoY)
- CPAXT (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 33.00 บาท คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 จะเติบโตทั้ง q-q (ฤดูกาล) และ y-y (แรงหนุนจากยอดขาย และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลง) และคาดแนวโน้มยังดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 1/67 จากการได้ประโยชน์จากโครงการ Easy E-receipt รวมถึงเทศกาลตรุษจีน