นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ ระบุว่าทิศทางตลาดหุ้นไทย (SET Index) เดือน ก.พ.67 คาดแกว่ง Sideways ปัจจัยที่ยังขาดอยู่ คือสภาพคล่องที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนผ่านการเติบโตของ M2 ที่อยู่เพียงระดับ 2% เงินส่วนใหญ่ยังคงกองอยู่ในบัญชีเงินรับฝากสกุลเงินตราต่างประเทศ ตราบใดที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างไทยกับสหรัฐฯยังคงอยู่ในระดับสูง เงินก้อนใหญ่จะยังคงอยู่ในบัญชีนี้ต่อไป จนทำให้ตลาดหุ้นยังคงขาดแคลนสภาพคล่องส่วนเกินดังกล่าว
นอกจากนั้น อาจต้องติดตามปัจจัยการเมืองที่อาจเป็น Noise ระหว่างทาง อาทิ การมีผู้นำผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ไปยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อเอาผิดพรรคก้าวไกล นำไปสู่กระบวนการตัดสินยุบพรรค หรือรวมถึงความเป็นไปได้ในการยื่นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิดด้านจริยธรรมของคุณพิธาและส.ส.รายอื่น เป็นต้น
บล.ทรีนีตี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET เดือนนี้มีแนวรับอยู่ที่ 1,340 จุด และแนวต้าน 1,410 จุด ปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของดัชนีในเดือนนี้ ได้แก่ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนประจำไตรมาส 4/66 ซึ่งจะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนประมาณการกำไรในตลาดได้ ประเมินกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ 1. หุ้นปันผลสูงที่อยู่ในช่วง High season ได้แก่ ADVANC, AP, BCH, INTUCH, PTT, SIRI, TISCO 2. หุ้นที่อิงกับการบริโภคภายในประเทศ ได้แก่ CPALL, CPAXT, BJC, MASTER และ 3. หุ้นปลอดภัยที่มีคุณลักษณะคล้ายพันธบัตร เช่น กลุ่ม REIT, IFF และกลุ่มสาธารณูปโภค
ปัจจัยสำคัญอื่นๆที่น่าติดตามในเดือนนี้ ได้แก่ 1.โมเมนตัมของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งหากจะลดทอนความกังวล Recession fear ของตลาด จำเป็นต้องออกมาดีกว่าตลาดคาดเป็นส่วนใหญ่ เริ่มตั้งแต่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรวันที่ 2 ก.พ.นี้ 2. การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยวันที่ 7 ก.พ. คาดว่าจะมีมติคงดอกเบี้ยที่ 2.5% และ 3. พัฒนาการความขัดแย้งในทะเลแดง ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าระวางเรืออยู่ในระดับสูงต่อไปส่งผลกดดันต่อผู้ส่งออกเพิ่มขึ้น