(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพตามตลาดสหรัฐรับบอนด์ยีลด์ลง-ดอลลาร์อ่อนค่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday February 2, 2024 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีน่าจะค่อยๆ ปรับขึ้นได้ โดยตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้บวกได้ดี หลังเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐสะท้อนภาพเศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวและเงินเฟ้อน่าจะลดลง ซึ่งสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นระดับ 49.1 ดีกว่าที่ตลาดคาด

ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นที่ 2.24 แสนรายมากกว่าคาด สะท้อนว่าภาพแรงงานชะลอลง ดังนั้นแรงกดดันของเงินเฟ้อจะลดลง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐบวกกว่า 1% รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลง และดอลลาร์อ่อนค่า น่าจะเป็นบวกกับตลาดหุ้นในภูมิภาค

สำหรับปัจจัยในประเทศ ประเด็นการเมืองที่เริ่มมีความเคลื่อนไหว แต่ในแง่ของความร้อนแรงนอกสภายังไม่มีสัญญาณที่จะมีการชุมนุม ซึ่งแรงกดดันดังกล่าวก็น่าจะค่อยๆ ลดลงตามลำดับ ตลาดคงกลับมาให้น้ำหนักกับปัจจัยพื้นฐานและกำไรบริษัทจดทะเบียนต่อไป

แต่หากมองในมุม Valuation ของ SET Index ต่ำมากแล้ว P/B 1.31 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว จึงมองว่าดาวน์ไซด์ค่อนข้างจำกัด ขณะที่เมื่อวานนี้ Flow มีสัญญาณให้คาดหวังได้เล็กน้อย หากยังเข้ามาต่อเนื่องจริงจะส่งผลให้การที่ดัชนีปรับลงแรงไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น มองภาพรวมดัชนีมีโอกาสที่จะแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ

กลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้แนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง อาทิ TISCO และกลุ่มที่คาดผลประกอบการดี หรือมีผลตอบแทนที่ดี อาทิ CPAXT

โดยให้แนวรับที่ 1,360 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 ก.พ.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,519.84 จุด เพิ่มขึ้น 369.54 จุด หรือ +0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,906.19 จุด เพิ่มขึ้น 60.54 จุด หรือ +1.25% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,361.64 จุด เพิ่มขึ้น 197.63 จุด หรือ +1.30%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,756.12 จุด เพิ่มขึ้น 189.91 จุด หรือ +1.22% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,773.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.56 จุด หรือ +0.09% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 36,249.99 จุด เพิ่มขึ้น 238.53 จุด หรือ +0.66%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ก.พ.67) ที่ 1,367.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด (+0.25%) มูลค่าซื้อขาย 42,001.69 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (1.ก.พ.67) ที่ 2,080.16 ล้านบาท
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 73.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ก.พ.67) อยู่ที่ 8.75 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.28 บาท แข็งค่าสอดคล้องภูมิภาค รับดอลลาร์อ่อนค่าหลังบอนด์ยีลด์ชะลอ
  • นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ เปิดเผยถึงแผนการทำงานของบีโอไอ ปี 2567 ว่า วันที่ 6 กุมภาพันธ์ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) จะประชุมนัดแรกของปี 2567 เพื่อพิจารณาแผนการทำงานของบีโอไอ เบื้องต้นจะเน้นงาน 5 ด้านหลักๆ
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "จับชีพจรประเทศไทย" ในงานสัมมนาฝ่าเศรษฐกิจ ปีงูใหญ่ ชวนสร้างไทยให้ยั่งยืน ซึ่งจัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจเติบโตต่ำ ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมือง การแบ่งสีแบ่งค่าย มุ่งยึดฐานเสียงทุกรูปแบบ จึงเปิดช่องให้คนมีทุนเข้ามาทำการเมือง จนกลายเป็นโมเดลธุรกิจการเมืองจนไม่มีผู้มีอำนาจตัดสินใจอย่างแท้จริง
  • แก้ ม.112 ลามหนัก! "เรืองไกร" ขู่ไล่บี้ยื่นสอบ "เศรษฐา-อุ๊งอิ๊ง" อ้างเคยหาเสียงแก้ไขกฎหมายคุ้มครองสถาบัน ขอเก็บรวบรวมข้อมูลก่อน ด้าน "เลขาธิการพรรคพท." ยันไม่หวั่นคนยื่นยุบพรรค ย้ำจุดยืนพรรคคือเราต้องเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบัน ส่วนจะแก้ไขหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับเสียงของประชาชน ส่วนนักร้องมาตามนัด "เรืองไกร-ธีรยุทธ" บุกร้องกกต. ส่งศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง ฟันธง ก.ก.-กก.บห." ไม่รอดแน่ เชื่อถูกตัด สิทธิทางการเมือง 10 ปี เล็งยื่นป.ป.ช.ฟันจริยธรรม เชื่อซ้ำรอย "ปารีณา" ขณะที่ขณะที่ "เต้ มงคลกิตติ์" ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.พิจารณาเอาผิด "ก้าวไกล" ล้มล้างการปกครองเข้าข่ายผิดข้อหากบฏหรือ ไม่ เชื่ออนาคต ก.ก.ถูกยุบพรรค ตัด สิทธิ กก.บห. 100%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ADVANC (กรุงศรี) แนะนำ "ซื้อ" เป้า 262 บาท กำไรสุทธิยังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ประมาณ 7.7 พันล้านบาท (+16% yoy, +1% qoq) จากรายได้เพิ่มขึ้นตาม ARPU ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด และค่าไฟฟ้า
  • WHA (ดาโอ) แนะนำ "ซื้อ" เป้าเชิงกลยุทธ์ 4.90 บาท ราคาหุ้นลงมาค่อนข้างมาก กำไร 4Q และภาวะอุตสาหกรรมยังคงดีอยู่ บริษัทเปิดเผย presale ปี 66 ที่ 2.77 พันไร่ และตั้งเป้าปี 67 ที่ 2.28 พันไร่ และขายทรัพย์เข้ากอง WHART และ WHAIR รวม 2.13 แสนตร.ม.
  • SNNP (ลิเบอเรเตอร์) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 22.20 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 166 ล้านบาท (+3%,q-q, +8%y-y) และคาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น เนื่องจากสัดส่วนการขายกลุ่ม Snack (เบนโตะ และโลตัส) เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำไรดีกว่า Beverage (เจเล่) ผสานการผลิตในเวียดนามดีขึ้น แนวโน้มปี 67 คาดยังไปต่อ โดยคาดยอดขายทั้งในและต่างประเทศจะเติบโตได้ระดับ 2 หลัก จากทั้งสินค้าเดิม และการออกสินค้าใหม่ โดยเราคาดกำไรปี 67 เพิ่มขึ้น +19%y-y

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ