7 โบรกเกอร์เชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ.ศุภาลัย (SPALI) จากแนวโน้มกำไรปี 67 ยังเติบโตต่อเนื่อง และสูงกว่าผู้ประกอบการ Top 5 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สวนทางภาพรวมตลาดอสังหาในปีนี้ที่ยังต้องเผชิญความท้าทายค่อนข้างมาก ตอบรับปัจจัยหนุนการโอนคอนโดใหม่ 5 โครงการ มูลค่ากว่า 1.7 หมี่นล้านบาท และการลงทุนเพิ่มในออสเตรเลีย ซึ่งจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาหนุนผลงานในไตรมาส 2/67
ประกอบกับ SPALI ยังคงมีความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) สูง อีกทั้งมีแผนเปิดโครงการใหม่มากถึง 42 โครงการมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท หวังชิงมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม ชณะที่ราคาหุ้นระดับ P/E ไม่แพง และยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ทำให้มีความน่าสนใจ
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) เอเซีย พลัส ซื้อ 27.30 ทิสโก้ ซื้อ 26.00 เกียรตินาคิน ซื้อ 25.00 ฟิลลิป ซื้อ 23.70 ดาโอ ซื้อ 23.50 กรุงศรี ซื้อ 23.50 หยวนต้า ซื้อ 23.40
นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรรมของ SPALI ในปี 67 ยังสามารถเติบโตได้ค่อนข้างดี แม้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทาย แต่ในปี 67 จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 5 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เข้ามาช่วยหนุนยอดโอน และจะหนุนผลการดำเนินงานของ SPALI ประกอบกับการขยายการลงทุนในออสเตรเลีย 12 โครงการ ซึ่งจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้เข้ามาในไตรมาส 2/67 จะเข้ามาเสริมผลงานของ SPALI ทำให้ประเมินกำไรในปี 67 เติบโต 12%
ขณะที่แผนธุรกิจในปี 67 ของ SPALI ยังวางแผนเชิงรุก โดยเฉพาะการเปิดโครงการใหม่มากถึง 42 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้านบาท จะเข้ามาช่วยในด้านยอดขายให้เติบโตได้มากขึ้น และความน่าสนใจของ SPALI อยู่ที่ราคาหุ้นที่ไม่แพง ระดับ P/E ที่ 5.9 เท่า และประเมินผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 67 เพิ่มขึ้นเป็น 6.3% จากปี 66 ที่ 5.8% ทำให้ยังให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท/หุ้น
นักวิเคราะห์ บล.เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า SPALI เป็นหุ้นมีความโดดเด่นในกลุ่ม จากการที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และแนวโน้มยอดขายคาดว่าจะเติบโตสูงที่สุดใน Top 10 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาด คาดว่า SPALI สามารทำยอดขายในปี 67 เติบโต 12% สูงกว่า Top 10 ผู้ประกอบการอสังหารายใหญ่ในตลาดที่เฉลี่ยเติบโต 5% จากกลยุทธ์ของ SPALI ที่มีการขยายโครงการในเซ็กเม้นต์ต่างๆที่กระจายตัว และการขยายในตลาดภูมิภาคที่ทำยอดขายได้ดี
ขณะเดียวกันยังมีมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่จะเข้ามารับรู้รายได้ในปี 67 ต่อเนื่อง โดยประเมินว่าจะมีกำไรเติบโตสูงถึง 15% ในปี 67 สูงที่สุดเมื่อเทียบกับ Top 5 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในตลาด อีกทั้ง SPALI ยังให้ปันผลที่สูง 7.5% ต่อปี และมี P/E เพียง 5.7 เท่า โดยให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น
ส่วน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" SPALI ด้วยราคาเป้าหมาย 23.70 บาท/หุ้น จากการที่ SPALI เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง มี Backlog ที่รองรับรายได้จำนวนมาก ประกอบกับ มีแผนเปิดโครงการใหม่เชิงรุกเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด (Market share) ซึ่งจะช่วยการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เข้ามา โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีดีมานด์และมีกำลังซื้อที่ดี ซึ่งจะเข้ามาหนุนต่อยอดขายของ SPALI
นอกจากนี้ SPALI ยังมีการขยายโครงการลงทุนในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ซึ่งจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาในตไรมาส 2/67 ทำให้มีปัจจัยที่หนุนกำไรในปีนี้ ซึ่งประเมินกำไรในปี 67 เติบโต 12.8% และ SPALI ยังซื้อขายที่ P/E ไม่สูง 6.5 เท่า และยังเป็นหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ดีต่อเนื่อง คาดว่าในงวดปี 67 จะให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.48% ต่อปี
https://youtu.be/wiCZQRDU0yw