นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) 5 ต่อ 2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ว่า อัตราดอกเบี้ยในประเทศไทยอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับในอดีตและเมื่อเทียบกับประเทศอื่น แต่ต้องพิจารณาว่าตอนนี้ถึงเวลาหรือยังที่จะปรับลดดอกเบี้ย
"สำหรับมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าในคราวหน้านโยบายหรือการตัดสินใจจะเป็นอย่างไร เพราะเราเริ่มเห็นแล้วว่ามีกรรมการที่มองว่ามีเหตุผลที่จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ย เพราะฉะนั้นตรงนี้มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีในอนาคต"นายภากร กล่าว
ผู้จัดการ ตลท.กล่าวอีกว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานักลงทุนเผชิญมีข้อกังวลหลายปัจจัย แต่ในปีนี้ปัจจัยต่าง ๆ เริ่มคลี่คลายลงไปมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยอมรับว่ายังมีอีกหลายปัจจัยที่กำลังจะกลับเข้ามา อาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความไม่แน่นอน และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม
แต่เรื่องอื่น ๆ มีทิศทางที่คลี่คลายลง สะท้อนภาพ Sentiment ที่ดีขึ้น ยิ่งกว่านั้นหากอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกเริ่มลดลง ก็เชื่อว่าสภาพคล่องทางการเงิน (Liquidity) จะกลับมาดีขึ้นและทำให้ Flow กลับเข้ามาในประเทศ
ในเดือนก.พ. เริ่มเห็น Fund Flow กลับเข้ามาทุกวัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามต่อว่าเป็นเงินทุนระยะสั้นหรือระยะยาว หากเป็นเงินทุนระยะสั้นก็อาจเกิดจากประเด็นดอกเบี้ยหรือค่าเงิน แต่หากเป็นระยะยาว สะท้อนว่าเริ่มมีปัจจัยบวกมากขึ้น จากการที่นักท่องเที่ยวจีนกลับมากขึ้นส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย หากเป็นไปได้ต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยบวกอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตอนนี้เป็นการฟื้นตัวเพียงบางกลุ่ม โดยจะเห็นการฟื้นตัวในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหรือการบริโภคในประเทศ แต่กลุ่มที่ฟื้นตัวได้ช้า คือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Global Economy ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องให้น้ำหนักเรื่องข้อมูลต่าง ๆ ค่อนข้างมาก ธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมัน หรืออัตราดอกเบี้ยมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ เป็นกลุ่มที่ต้องติดตามข้อมูลอย่างดี
สำหรับประเด็นความกังวลต่อการใช้โปรแกรมเทรดดิ้งนั้น นายภากร กล่าวย้ำว่าทุกเคสที่มีผู้ส่งข้อมูลมาให้ ตลท.ตรวจสอบแล้วทั้งหมดไม่พบการทำ Naked Short sell และยังคงเปิดรับเคสที่เสนอให้ตรวจสอบเสมอ โดยจะตรวจสอบทุก Transaction ในช่วงเวลาที่มีข้อสงสัย อย่างไรก็ดี ตลท.ไม่สามารถตรวจสอบกรณีที่มีการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ได้ เนื่องจากไม่ได้อยู่ในขอบเขตการทำงาน