นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมปิดดีลเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอีก 3 ดีลภายในปีนี้ โดยวางงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาทต่อดีล คาดว่าจะช่วยผลักดันสัดส่วนกำไรของธุรกิจ Non-oil เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปี 68 จากปีนี้คาดขยับขึ้นมาอยู่ราว 25%
ล่าสุด บริษัทได้เข้าลงทุนในบริษัท ไทยไพบูลย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด โดยเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งแรกสัดส่วนไม่น้อยกว่า 10% คิดเป็นมูลค่าลงทุนไม่เกิน 103 ล้านบาท และในอนาคตจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนอีก เพื่อถือหุ้นเพิ่มเป็นไม่เกิน 33.33% คิดเป็นมูลค่าลงทุนไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท กระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในปี 68 เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจบริหารจัดการขยะและผลิตเชื้อเพลิงขยะ (Refuse Derived Fuel : RDF) รองรับแผนธุรกิจ 5 ปีที่จะขยายพอร์ตธุรกิจ Non-Oil ด้าน Renewable Energy
นายไพบูลย์ คุ้มคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยไพบลูย์ อีควิปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายจะเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 69-70 เพื่อขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้ PTG เข้ามาเป็นพันธมิตรที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ
ปัจจุบัน บริษัทมีการบริหารจัดการขยะอยู่ที่ 7,000 ตันต่อวัน และสามารถผลิตเชื้อเพลิง RDF ได้ปริมาณราว 1,500-2,000 ตันต่อวัน ส่งขายให้แก่โรงไฟฟ้าขยะในภาคกลางและตะวันออกเป็นหลัก ขณะที่วางเป้าหมาย 3 ปี (66-68) จะเพิ่มการบริการจัดการขยะเป็น 15,000-20,000 ตันต่อวัน และผลิต RDF เพิ่มเป็น 3,000-4,000 ตันต่อวัน พร้อมทั้งขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่โรงไฟฟ้าอื่นๆ เพื่อใช้ทดแทนถ่านหิน
ภายหลังจากร่วมลงทุนกับ PTG จะช่วยให้บริษัทมีฐานทุน รวมถึงพันธมิตรที่แข็งแกร่งในการขยายการเติบโตในอนาคต ซึ่งผลการดำเนินงานรวมของกลุ่มบริษัท ณ ปัจจุบันมีรายได้ต่อปีกว่า 800 ล้านบาท และกำไรสุทธิกว่า 100 ล้านบาท รายได้หลักมาจากการขาย RDF และการบริหารจัดการขยะ ขณะที่ผลการดำเนินงานจากนี้ก็คาดหวังว่ายอดขายก็จะเพิ่มขึ้นและอัตรากำไรจะเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 20% จากปัจจุบันอยู่ที่ 15% หลังจาก PTG เข้ามาเป็นพันธมิตร