นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ 1.78 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% จากปีก่อนที่ทำยอดขาย 1.64 หมื่นล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ที่ 8.7 พันล้านบาท พร้อมวางแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 67 จำนวน 12 โครงการ มูลค่า 2.59 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 9 โครงการ และแนวราบ 3 โครงการ
ในปีนี้บริษัทจะมีโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอน 9 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 9.55 พันล้านบาท และแนวราบ 2 โครงการ มูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) รวม 1.95 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 67 ไปจนถึงปี 69
นายกรมเชษฐ์ มองว่า ทิศทางอสังหาริมทรัพย์ในปี 67 ยังมีแนวโน้มการเติบโตในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งภาพรวมมีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ปัจจัยบวกที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมและกระตุ้นกำลังซื้อมีหลายปัจจัย เช่น การต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนองออกไปอีก 1 ปี รวมถึงมาตรการฟรีวีซ่าถาวรไทย-จีนจะช่วยกระตุ้นให้หนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาในประเทศไทยมากขึ้น คาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจ รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง
บริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจอย่างเต็มกำลังผ่านกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิด "THE NEW FRONTIERS" เพื่อการเติบโตทุกมิติ โดยบูรณาการ 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย Execute มุ่งมั่นสร้างสรรค์บ้านและคอนโดคุณภาพ รวมถึงรักษาความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจหลัก คือคอนโดมิเนียมที่มี 3 แบรนด์เรือธงอย่าง KAVE, ATMOZ และ MODIZ ปักหมุดทั่วเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล และ EEC ในปีนี้จะเปิดคอนโด 6 โครงการใหม่ มูลค่า 10,820 ล้านบาท เน้นทำเลศักยภาพเดินทางสะดวก ใกล้สถาบันการศึกษา ใกล้แหล่งงาน รวมถึงเปิดตัวบูทีคคอนโดแบรนด์ใหม่ Maroon รัชดา 32 และ Aquarous ทำเลจอมเทียน-พัทยา
กลยุทธ์ Expand การขยายโครงการให้เติบโตในทุกมิติทั้งทำเล สินค้า และราคา โดยยังพัฒนาโครงการต่อเนื่องทั้งในทำเลที่เชี่ยวชาญ และมองหาโอกาสขยายทำเลใหม่ที่มีศักยภาพ รวมถึงพัฒนาโครงการแนวราบให้มีความหลากหลาย เติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้ามากขึ้นภายใต้แบรนด์ ESTA, THE ARBOR, THE HONOR และล่าสุด CHANN The Riverside บ้านเดี่ยวบูทีคติดแม่น้ำท่าจีนบนโค้งน้ำเส้นบรมราชชนนี
รวมถึงการรุกเจาะขยายธุรกิจพื้นที่ EEC ทั้ง ศรีราชา บางแสน และระยอง ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวและแหล่งนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยล่าสุดได้มีการสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนหลายแบรนด์ที่มาตั้งฐานการผลิตในเขต EEC ทำให้ยังคงมีดีมานด์ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ทั้งซื้ออยู่อาศัยเอง และเพื่อลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกลยุทธ์ Explore จะแสวงหาโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนใหม่ ๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อเป็นการสร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income) ทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ Mingle Mall , Well Aesthetic & Wellness Center ย่านรัชดาภิเษก และล่าสุด มิงเกิ้ล สปอร์ต วิลเลจ (Mingle Sport Village at Rangsit) ศูนย์กีฬาในร่มเอาใจสายรักสุขภาพ รวมถึง Rocket Fitness ภายใต้การบริหารงานของ "บริษัท เทรเชอร์ เอ็ม จำกัด ในเครือ ASW รวมถึง ZAAP World ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็ม
ด้านแผนงานพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตของ บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) ในเครือของ ASW วางแผนเปิดตัว 3 โครงการใหม่ในปี 67 ได้แก่ เดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา มูลค่าโครงการ 6 พันล้านบาท, เดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท และ เดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท พร้อมทั้งร่วมทุนพัฒนาโครงการ โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว ลักชัวรี่พูลวิลล่าเมกะโปรเจ็คต์ 1.3 หมื่นล้านบาท ถือหุ้น 30% ทำให้พอร์ตอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตของ ASW มีความครบเครื่องมากยิ่งขึ้น
ส่วนในปลายปี 66 ที่ผ่านมา TITLE ได้เปิดขายโครงการ เดอะ ไทเทิล เลเจนดารี บางเทา ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างดีเยี่ยม จนตอนนี้มียอดขายรวมแล้วกว่า 80% สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ THE TITLE และเพื่อต่อยอดความสำเร็จ
"ผมเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเติบโตของแอสเซทไวส์ ทั้งการขยายธุรกิจสู่ทำเลใหม่ๆที่มีศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการพัฒนาโครงการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต เพื่อมุ่งส่งมอบบ้านคุณภาพที่สร้างความสุขให้ลูกค้าอย่างแท้จริง จากกลยุทธ์ที่เราวางไว้ในปีนี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน" นายกรมเชษฐ์ กล่าว