นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาด แกว่งไซด์เวย์ออกด้านข้าง แม้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียกลับมาเปิดทำการแล้วหลังจากปิดไปในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งน่าจะทำให้มูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักมากขึ้น แต่ตลาดก็ยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ และนักลงทุนน่าจะรอดู การเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ โดยตลาดคาด +3% YoY และคาด Core CPI +3.8% YoY
ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ วันที่ 15 ก.พ.นี้ รวมถึงการประกาศผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทย ที่จะทยอยออกมามากขึ้น
ให้แนวรับไว้ที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,395 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (9 ก.พ.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,671.69 จุด ลดลง 54.64 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,026.61 จุด เพิ่มขึ้น 28.70 จุด หรือ +0.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,990.66 จุด เพิ่มขึ้น 196.95 จุด หรือ +1.25%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีน ปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ส่วนตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการวันนี้ (12 ก.พ.) เนื่องในวันชาติญี่ปุ่น
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ก.พ.) ที่ 1,388.37 จุด ลดลง 0.23 จุด (-0.02%) มูลค่าซื้อขาย 29,071.10 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 799.08 ล้านบาท (9 ก.พ.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(9 ก.พ.) เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.81% ปิดที่ 76.84 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวขึ้น 6.3% ในรอบสัปดาห์นี้
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 ก.พ.) อยู่ที่ 9.73 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.90 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาเงินเฟ้อสหรัฐ-ทิศทาง Flow
- นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างกรมสรรพากร กรมศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงแนวการทบทวนการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มียอดการสั่งซื้อและส่งเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และอากรขาเข้าสำหรับสินค้าที่มีหีบห่อ ราคารวมค่าขนส่งและค่าประกันภัยไม่เกิน 1,500 บาท โดยจะพิจารณาว่าจะเปลี่ยนแปลงอัตราภาษีอย่างไร หรือควรยกเลิกการยกเว้นหรือไม่ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์
- "วราวุธ" เชื่อผลประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตสัปดาห์หน้าคลายข้อกังวลหลายฝ่ายได้ พท.ซัดกลับ "พิธา" มองคับแคบ ยันรัฐบาลมีไข่หลายใบกระจายใส่ตะกร้าหลายใบ เดินหน้าแจกเงินหมื่นควบคู่นโยบายเรือธงอื่น "ศิริกัญญา" กระทุ้งเตรียมแผนสำรอง อย่าเอาชะตากรรมประเทศผูกติดนโยบายเดียว แนะลดขนาดโครงการใช้งบ 68 แทน "ซูเปอร์โพล" ชี้คนไทยเกินครึ่งเกือบ 27 ล้านคนเงินในกระเป๋าวิกฤต
- ล้วงลึก "วิกฤตหนี้ครัวเรือน" เครดิตบูโรเปิดข้อมูลปิดปี 2566 "หนี้เสีย+หนี้ SM" รวมทะลุ 1.6 ล้านล้าน จับตา "หนี้บ้าน" ค้างชำระพุ่ง 31% "หนี้รถ" ฝีแตก NPL กระฉูด 28% ดันหนี้เสียรถยนต์แตะ 2.3 แสนล้าน แถมกลุ่มหนี้กำลังจะเสียวิ่งไล่มาอีก 2 แสนล้าน แบงก์ผวาหนี้เสียลุกลามกลุ่มปัจจัยสี่ เข้มปล่อยกู้ฉุดตลาดรถ-บ้านขายไม่ออก ผู้จัดการใหญ่เครดิตบูโร ภาวะดอกเบี้ยสูง กดปัญหาหนี้ครัวเรือน "เมาค้าง" เป็นปัญหาไปอีกนาน ฝาก ธปท.ปรับวิธีคิดสูตรแก้หนี้ เอ็มดีศูนย์วิจัยกสิกรฯ ย้ำดอกเบี้ยสูงกดทับปัญหาความสามารถชำระหนี้คนไทย ขณะที่รายได้ต่อหัวลดลง หนี้ภาคธุรกิจยังจัดการได้ยอมรับบางเซ็กเตอร์ความเสี่ยงเพิ่ม
*หุ้นเด่นวันนี้
- TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 7.80 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 สูงสุดในรอบ 6 ไตรมาสที่ 61 ลบ. +19% q-q, +27% y-y จาก High Season และมีการออกเครื่องดื่มรสชาติใหม่ ทำให้รายได้คาดโตแกร่ง +11% q-q, +13% y-y ดีกว่า SSSG ของ 7-11 ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบทรงตัว ทำให้ Margin ยังยืนใกล้เกียง 3Q23 จบปี 2023 คาดมีกำไรปกติ 209 ลบ. -10% y-y ในไตรมาส 4/66 จะมีการบันทึกด้อยค่าเงินลงทุนใน TCI ราว 30 ลบ. ซึ่งมีการทำสัญญาขายหุ้นและอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยหากขั้นตอนการซื้อขายแล้วเสร็จจะมีการกลับรายการเข้ามาในปี 2024 ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มจากผลการดำเนินงานปกติที่คาดกลับมาเติบโตที่ 240 ลบ. +15% y-y ราคาหุ้นเทรด PER เพียง 11-12 เท่าและให้ Dividend Yield สูงถึง 7-8% ต่อปี
- AAV (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 2.5 บาท " ธุรกิจท่องเที่ยว+การบิน หนุนตลาดหุ้นช่วงนี้ " บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารประมาณ 20-21 ล้านคน ขณะที่อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) ตั้งเป้าไว้ที่ 88% จากปี 66 ที่ 90% ตามการเดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่อย่างต่อเนื่อง แอร์เอเชีย เปิดบินตรงญี่ปุ่นเส้นทาง "ดอนเมือง-โอกินาว่า" เที่ยวบินแรก 2 เม.ย. เคาะราคาตั๋วเริ่มต้น 3,490 บาท 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ อนาคตเล็งเพิ่มเที่ยวบิน Daily เจาะลูกค้าไทยเที่ยวญี่ปุ่น-ครอบครัวทหารอเมริกาเที่ยวไทย
- SCCC (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 153.00 บาท บริษัทรายงานผลประกอบการ ไตรมาส 4/66 มีกำไรสุทธิที่ 827 ล้านบาท +88%QoQ และพลิกจาก 4Q65 ที่ขาดทุน โดยกำไรที่ดีขึ้นมาจากโครงการลดต้นทุนภายในและราคาพลังงานที่ลดลงทั้งถ่านหินและค่าไฟฟ้า ชดเชยปัจจัยลบจากอุปสงส์ธุรกิจซีเมนต์ในต่างประเทศได้ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายพิเศษจากการด้อยค่าฯ ยังลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/67 ผลการดำเนินงานยังอยู่ในทิศทางที่ฟื้นตัว โดยตลาดในประเทศคาดหวังปัจจัยบวกรัฐบาลเร่งผ่านงบปนะมาณในช่วง 2Q67 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 2.96 พันล้านบาท +11%YoY ทั้งนี้บริษัทประกาศจ่ายเงินปันปล 7 บาท/หุ้น คิดเป็น Div Yield 5%