นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น (CRC) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าสร้างการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง วางวิสัยทัศน์ 5 ปีเดินหน้ลสู่ The Next Era ด้วยกลยุทธ์ CRC OMNI-Intelligence ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในทุกกระบวนการของการทำธุรกิจ โดยการนำ AI เข้ามาผนวกกับความชำนาญของพนักงานเพื่อให้การทำงานของ CRC รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากวิสัยทัศน์ CRC OMNI-Intelligence ถูกต่อยอดมาเป็นแผนงานปี 67 ที่มีเป้าหมายรายได้เติบโต 9-11% กำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ย (EBITDA) เติบโต 15-17% โดยวางงบลงทุนปีนี้ 2.2-2.4 หมี่นล้านบาท โดยมีแผนการดำเนินงานในปี 67 ประกอบด้วย
- กลุ่มแฟชั่น จะมีการพัฒนาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แฟล็กชิปสโตร์ สาขาชิดลม สู่การเป็น World Class Luxury Destination รวมถึงการขยายสาขาเพิ่ม 2 แห่ง พร้อมรีโนเวทและอัพเกรดห้างอีก 4 แห่ง ตลอดจนมีแผนเพิ่มแบรนด์ชั้นนำระดับโลก และนำแบรนด์ในไทยขยายไปยังเวียดนาม
- กลุ่มฟู้ด เดินหน้าขยาย GO Wholesale อีก 7 สาขา เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่ The New Choice For All สำหรับผู้ประกอบการทุกคน ตั้งเป้าขยาย 40 สาขาภายใน 5 ปี ก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของ Omni B2B ในกลุ่ม HoReCa นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขา Tops รวม 10 สาขาในไทย ส่วนเวียดนามมีแผนเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 3 สาขา และ go! (มินิ โก!) อีก 9 สาขา ซึ่งถือเป็น Proven Format ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
- กลุ่มฮาร์ดไลน์ จะขยายสาขาไทวัสดุ 9 สาขา พร้อมรีโนเวทอีก 4 สาขา และได้ทรานส์ฟอร์มเหงียนคิมในเวียดนามให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
- กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ มีการพัฒนาและปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง ส่วนศูนย์การค้า GO! ในเวียดนาม มีแผนขยายอีก 3 สาขา โดยตั้งเป้าปิดปี 67 ด้วยจำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 42 จังหวัด จาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมีการยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการยกระดับ Synergy และมองหาโอกาสทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจ
พร้อมกับการต่อยอดธุรกิจนอกจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ ในแต่ละ Category เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็มจาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ เดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับการทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)
"ด้วยอีโคซิสเต็มของ CRC ที่สมบูรณ์แบบ มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วในทุกสถานการณ์ มีเสถียรภาพทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากการบริหารต้นทุน และควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ CRC สามารถเดินหน้าและขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว หลังจากที่ผลงานในในปี 66 ที่ผ่านมาสามารถทำได้เป็น Record Year และโตมากกว่าก่อนโควิดไปแล้ว" นายญนน์ กล่าว