นางสาวอังคกาญจน์ ตันติวิรุฬห์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ริช เอเชีย สตีล(RICH) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนติดตั้งเครื่องจักรผลิตเหล็กแปรรูปแล้วเสร็จตามแผนงาน และขณะนี้สามารถผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้แล้ว โดยโรงงานแห่งใหม่มีกำลังการผลิต 90,000 ตันต่อปี จะสร้างรายได้เพิ่มให้กับ RICH อีกประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปีจากปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิต 125,000 ตันต่อปี
"ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของ RICH ในปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา"นางสาวอังคกาญจน์ กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูป 90,000 ตันต่อปี ผลิตจากการนำเหล็กแท่ง (Billet) มาเข้าเตาเผา ในการรีดเหล็กแปรรูปจะได้ผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปในรูปลักษณะตามความต้องการของลูกค้า เมื่อผ่านกระบวนการรีดร้อนมาแล้วจะปล่อยให้เย็นตัวลงตามธรรมชาติ เพื่อลำเลียงส่งไปเข้าเครื่องนับเหล็กเพื่อนับให้ได้จำนวนเส้นตามความต้องการ หลังจากนั้นจะนำเข้าเครื่องมัดเหล็กแปรรูปเพื่อส่งเข้าไปเก็บในโกดังต่อไป
แผนงานในอนาคต บริษัทมีโครงการที่จะผลิตเหล็กโครงสร้างเหล็กแปรรูปอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง และการจัดหาเหล็กรีดร้อนเกรดพิเศษเพื่ออุตสาหกรรมถังแก๊ส กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายคือลูกค้าที่จำหน่ายเหล็กแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุชิ้นส่วนยานยนต์ (First Tier) กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมถังแก๊ส(Gas Cylinder)
ปัจจุบันบริษัทยังมีโครงการจัดหาเหล็กรีดร้อนเกรดพิเศษ (Special Grade Hot Rolled Coil) เป็นการจัดหาตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยเป็นการจำหน่ายให้โรงงานผลิตถังแก๊ส สำหรับไปบรรจุแก๊ส LPG (Liquid Petroleum Gas) โดยจะต้องใช้เหล็กแผ่นรีดร้อนเกรดพิเศษเป็นวัตถุดิบ โดยบริษัทวางแผนการจำหน่ายให้แก่ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บรรจุแก๊ส (Gas Cylinder) ทั้งภายในประเทศและกลุ่มประเทศแถบเอเชีย
ในด้านของการแข่งขัน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ท่อเหล็กของบริษัทมุ่งเน้นที่ตลาดระดับที่ใช้งานทั่วไป (Mass Market) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าที่กว้างและมีการความต้องการอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการใช้ในการก่อสร้างที่พักอาศัย และอาคารสำนักงานยังคงไม่รุนแรงมากนัก ถึงแม้จะมีจำนวนผู้ประกอบการหลายรายในอุตสาหกรรม เนื่องจากผู้ประกอบการแต่ละรายต่างก็มุ่งเน้นฐานลูกค้าที่แตกต่างกันไป
ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคท่อเหล็กมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง การใช้งานท่อเหล็กในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้นในอุตสาหกรรมต่อเนื่องต่างๆ และการใช้ท่อเหล็กทดแทนวัสดุก่อสร้างอื่น
"สถานการณ์ของธุรกิจเหล็กปีนี้ดีมาก ในส่วนของราคาไต่ระดับขึ้นมาต่อเนื่อง RICH มองว่าราคาเหล็กยังมีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นต่ออีก เพราะตอนนี้สถานการณ์ของตลาดเปลี่ยนแปลงไปโดย big player เข้าไปซื้อเหมืองแร่เหล็กทำให้สามารถควบคุมราคาในตลาดโลกให้มีเสถียรภาพมากขึ้น คิดว่าต่อจากนี้ราคาเหล็กคงผันผวนน้อยลง ความเคลื่อนไหวตอนนี้บิลเล็ตจากระดับ 480 เหรียญในปีก่อน ตอนนี้อยู่ที่ 950 เหรียญ หรือแม้แต่ราคาเศษเหล็กจาก 320 เหรียญ ตอนนี้อยู่ที่ระดับประมาณ 660 เหรียญแล้ว"นางสาวอังคกาญจน์ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--