AOT ลบ 2.30% มาที่ 63.75 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 736.50 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.12 โดยเปิดตลาดที่ 64.00 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 64.25 บาท และต่ำสุดที่ 63.25 บาท
บล.กรุงศรี ระบุ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กำไรเติบโต yoy, qoq แต่ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยกำไรหลักอยู่ที่ 4.6 พันล้านบาทในไตรมาส 1/67 (ต.ค.-ธ.ค.66) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ 10% จากค่าเสื่อมราคาและ SG&A เพิ่มขึ้น
1.รายได้จากธุรกิจหลักเป็นไปตามคาด (+78% yoy และ +2% qoq) นำโดยรายได้เกี่ยวกับการบิน (+63% yoy, +12% qoq) และรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบิน (+93% yoy แต่ -5% qoq) เนื่องจากรายได้ค่าสัมปทานและค่าบริการที่เพิ่มขึ้นช่วยชดเชยรายได้จากค่าเช่าสำนักงานและพื้นที่ของรัฐที่ลดลง
2.อัตรากำไรขั้นต้น 64.6% (จาก 49% ในไตรมาส 1/66 และ 65.9% ในไตรมาส 4/66) ต่ำกว่าที่เราคาดเอาไว้เล็กน้อย (66.3%) เนื่องจากค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นเป็น 2.8 พันล้านบาท (จาก 2.3 พันล้านบาทในไตรมาส 4/66) จากการเปิดบริการ SAT-1 ในขณะที่ EBITDA margin อยู่ที่ 59.9% (จาก 40.3% 1/66 และ 49% 4/66) ต่ำกว่าที่คาดไว้เพราะค่าใช้จ่าย พนักงานเพิ่มขึ้น 22% yoy
บล.กรุงศรี คาดกำไรยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้ง qoq และ yoy จากจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลระหว่างวันที่ 1-10 ก.พ.67 พบว่าปริมาณการเดินทางทางอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 17% yoy ขณะที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 26% yoy (มาอยู่ที่ 80% ของระดับก่อน COVID ระบาดแล้ว) โดยเฉพาะสนามบินสุวรรณภูมิและภูเก็ตฟื้นตัวดีเป็นพิเศษ คิดเป็น 90% และ 88% ของระดับก่อน COVID ระบาดตามลำดับ
คงคำแนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเป้าหมาย 75 บาท คาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งตามการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วยเพิ่มผู้โดยสาร เที่ยวบิน และรายได้ค่าสัมปทาน