NAT เปิดเทรดวันแรกที่ 5.95 บาท บวก 10.19% หรือเพิ่มขึ้น 0.55 บาท จากราคา IPO 5.40 บาท
บล.โกลเบล็ก (ผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน) ระบุ บมจ.แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ (NAT) ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา จำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยวัตถุประสงค์ของการเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 67 ที่ 8.14 บาทต่อหุ้น
NAT ดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหา จำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology System Integration) และการให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Other Service) โดยสามารถแบ่งการให้บริการ และผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1. ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์พร้อมติดตั้ง และรับเหมาวางระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(Information and Communication Technology System Integration) และ 2. ธุรกิจให้บริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Other Service) โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 65 ที่ 97.1% และ 2.9% ตามลำดับ
บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 63-65 อยู่ที่ 488-1,090 ล้านบาท และ 57-101 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย CAGR ตลอด 3 ปีที่ 49% และ 33% ต่อปีตามลำดับ ทั้งนี้ รายได้และกำไร 9 เดือนแรกปี 66 เติบโต 91%YoY และ 72%YoY สู่ 1,232 ล้านบาท และ 98 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชนมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นหลังเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19
ผลประกอบการปี 66 และ 67 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้และกำไรปี 66 เติบโต 36%YoY และเติบโต 21%YoY สู่ 1,485 ล้านบาท และ 122 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากภาครัฐและเอกชนมีการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวลงจากปี 65 ที่ 15.8% เหลือ 14.7% ในปี 66 เนื่องจากรับรู้งานบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่ารายได้จากการขาย
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ารายได้และกำไรปี 67 จะกลับมาเติบโต 44%YoY และ 48%YoY ตามลำดับ สู่ 2,138 ล้านบาท และ 180 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจาก 1. หน่วยงานภาครัฐเตรียมระบบรองกับการทำงานออนไลน์เพิ่มขึ้นหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 2. บริษัทเอกชนหันมาลงทุนในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพิ่มขึ้นเพื่อการทำงานอย่างยืดหยุ่นหลังการแพร่ระบาด COVID-19
ประเมินราคาเหมาะสมที่ 8.14 บาทต่อหุ้น : เราประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี Prospective P/E Ratio โดยใช้ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดเอ็มเอไอ อาทิ AIT MFEC GABLE TKC ICN และ ITNS ได้ค่าเฉลี่ยที่ 14.8 เท่า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 ที่ 0.55 บาทต่อหุ้น